×

‘ไก่ทอด’ คว้าเมนูขายดีบน GrabFood ส่วน ‘กาแฟ’ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยม ทุกๆ 1 นาที มียอดสั่งซื้อกว่า 15 แก้ว

03.01.2023
  • LOADING...

Grab เผยอินไซต์ผู้ใช้บริการเดลิเวอรีปี 2565 ผ่าน ‘รายงานเทรนด์ธุรกิจเดลิเวอรีปี 2565’ (Delivery Trend Report 2022) โดยได้ศึกษาพฤติกรรมและสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้บริการที่มีต่อแพลตฟอร์มเดลิเวอรีกว่า 30,000 รายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุม 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย พบยอดการจัดส่งเดลิเวอรีบนแพลตฟอร์ม Grab ทั่วทั้งภูมิภาคโตขึ้นถึง 24%

 

ขณะเดียวกันพบว่าธุรกิจเดลิเวอรียังคงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดย 7 ใน 10 ของผู้บริโภคระบุว่าการใช้บริการเดลิเวอรีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาไปแล้ว

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

“ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ยอดการจัดส่งเดลิเวอรีผ่านแพลตฟอร์ม Grab เติบโตขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายต่อออร์เดอร์ (Basket Size) ของการสั่งสินค้าหรืออาหารผ่านบริการ GrabFood และ GrabMart ในปี 2565 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2562” จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าว

 

สำหรับในประเทศไทย 3 เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกใช้บริการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี คือ ความสะดวกสบายในการใช้บริการ การจัดส่งที่รวดเร็วและตอบโจทย์ความต้องการแบบออนดีมานด์ และเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสามารถสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวได้ง่ายขึ้น

 

รายงานดังกล่าวยังตอกย้ำว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน โดยผู้บริโภค 9 ใน 10 คนระบุว่าชื่นชอบแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และมองว่าปัจจุบันแอปพลิเคชันเดลิเวอรีไม่ได้ทำหน้าที่เพียงจัดส่งอาหารหรือของใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ โดย 88% ของผู้ใช้บริการรู้จักร้านใหม่ๆ ผ่านการใช้แอปพลิเคชันเดลิเวอรี และกว่า 90% ของผู้ใช้บริการเปิดใจสั่งสินค้าจากร้านที่ไม่เคยรู้จักอย่างน้อย 1 ครั้ง 

 

ด้านผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดย 9 ใน 10 รายของผู้ประกอบการในไทยกล่าวว่า แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด ขณะที่ 73% ของผู้ประกอบการในภูมิภาคระบุว่ายอดขายออนไลน์ส่วนใหญ่มาจากบริการ GrabFood

 

นอกจากนี้ Grab ยังได้เผยอินไซต์ของผู้ใช้บริการ GrabFood และ GrabMart ที่สะท้อน 3 เทรนด์ที่น่าจับตามองในปีหน้า ได้แก่

 

  • เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น: อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงอาหารประเภทแพลนต์เบส (Plant-based) ไม่ได้ถูกจำกัดความนิยมอยู่แค่ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป 74% ของคนไทยระบุว่าในทุก 2-3 วันจะมีการสั่งอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้อย 1 ครั้ง ขณะที่ 2 ใน 5 ของผู้บริโภคเคยลองรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบหลักจากพืชหรือแพลนต์เบสในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
  • สแน็กและของว่างยามบ่ายมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น: จากรายงานพบว่าคนไทย 2 ใน 5 รับประทานอาหารว่างหรือขนมขบเคี้ยวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดที่เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ผู้คนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น การรับประทานอาหารว่างหรือสแน็กระหว่างวันจึงกลายเป็นกิจกรรมกลุ่มที่เพิ่มสีสันให้กับผู้บริโภค โดย 64% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาสั่งอาหารว่างสำหรับรับประทานมากกว่า 1 คนขึ้นไป
  • แพ็กเกจสมาชิกสำหรับผู้ใช้บริการเดลิเวอรีกำลังมาแรง: 1 ใน 3 ของผู้ใช้บริการเดลิเวอรีในปัจจุบันมีการสมัครใช้แพ็กเกจสมาชิก (Subscription) อย่างน้อย 1 แพ็กเกจ เพื่อรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ใช้บริการที่ใช้แพ็กเกจสมาชิกมีอัตราการสั่งอาหารหรือสินค้าผ่านเดลิเวอรีบ่อยขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับผู้ใช้บริการทั่วไป

 

Grab ยังได้เผยอินไซต์ของลูกค้าในประเทศไทย ได้แก่

 

  • 5 เมนูขายดีประจำปีบน GrabFood คือ 1. ไก่ทอด 2. กาแฟ 3. ส้มตำ 4. ข้าวซอย และ 5. ชาเขียวเย็น 
  • กาแฟคือเครื่องดื่มยอดนิยม: คนไทยนิยมดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ทุกๆ 1 นาทีจะมีผู้ใช้บริการสั่งกาแฟผ่าน GrabFood ถึง 15 แก้ว หรือมากกว่า 7,800,000 แก้วตลอดทั้งปีเลยทีเดียว! 
  • 5 สินค้าขายดีบน GrabMart คือ 1. น้ำมันประกอบอาหาร 2. น้ำดื่ม 3. น้ำอัดลม 4. น้ำตาล และ 5. นม 
  • ATK กลายเป็นไอเท็มมาแรง: ทุกๆ 1 นาทีมีคนซื้อชุดตรวจโควิด 1 ชุดผ่าน GrabMart หรือมากกว่า 525,000 ชุดตลอดทั้งปี 
  • สินค้าขายดีช่วงปีใหม่ หนีไม่พ้นน้ำอัดลม พิซซ่า ไก่ทอด รวมถึงมันฝรั่งทอดกรอบ
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising