กรณี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันนี้ (28 กุมภาพันธ์) อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จำนวนผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่มีสถานะการลงทะเบียน ‘สมบูรณ์’ และ ‘ผ่าน’ การตรวจสอบคุณสมบัติมีทั้งหมด 14,596,820 คน เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ใช้สิทธิปัจจุบันที่ 13.17 ล้านคน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงว่า จำนวนผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นรอบนี้ใกล้เคียงกับจำนวนผู้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบรอบที่แล้ว โดยในจำนวนเกือบ 14.6 ล้านคนครั้งนี้ 60% เป็นผู้ที่ใช้สิทธิปัจจุบัน และสำหรับผู้ที่เข้าโครงการใหม่ในรอบนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการระบาดของโควิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้อาคมยังเปิดเผยอีกว่า ได้ประมาณการว่าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 จะใช้วงเงินประมาณ 63,427 ล้านบาท นับว่าสูงกว่างบประมาณรอบก่อนหน้านี้ที่ราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
โดยผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
- เว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน
- หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย), สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ, สังกัดกรมบัญชีกลาง, ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน สำหรับการตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง
- โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันจันทร์-ศุกร์ ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ณ ธนาคารดังกล่าว ตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร
และเมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองได้ผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป และติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน จะให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วันนับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ (วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566) ขณะที่ ธนาคารกรุงไทยจะให้บริการยืนยันตัวตน โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ สำหรับการยืนยันตัวตนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร
ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการผูกบัญชี PromptPay กับหมายเลขประจำตัวประชาชน เพื่อรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชี PromptPay กับธนาคารใดก็ได้ โดยหากผูกบัญชี PromptPay ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคต
ทั้งนี้ หากพบว่าสถานะการยืนยันตัวตนสมบูรณ์ ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ในกรณีที่ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 1-26 มีนาคม 2566 และในกรณีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 เท่านั้น
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 แล้วพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ผู้ลงทะเบียนสามารถยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
- ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน
- ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, ธ.ก.ส., สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด, ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ โดยผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์
หลังจากผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการยืนยันการขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการขอตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ ปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ https://welfare.mof.go.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิด 5 สิทธิประโยชน์หลักบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ คลังปรับวงเงินซื้อสินค้าเป็น 300 บาททุกคนต่อเดือน เริ่มใช้สิทธิวันแรก 1 เม.ย. นี้
- คลังจับมือ 47 หน่วยงาน ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมเปิดลงทะเบียนวันแรก 5 ก.ย.นี้
- รัฐบาลเตรียมพิจารณาเพิ่มสิทธิ-สวัสดิการในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เน้นครอบคลุมความต้องการมากขึ้น