‘ก๊าซธรรมชาติ’ เป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในยูเครน และเศรษฐกิจยุโรปอาจได้รับผลกระทบหากรัสเซียหยุดการส่งออก
ความเสี่ยงด้านอุปทานที่เกิดจากสงครามทำให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก โดยราคาของน้ำมัน นิกเกิล และข้าวสาลี ก็เพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับก๊าซธรรมชาติในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเตือนว่า มอสโกอาจหยุดการส่งออกไปยังเยอรมนีและส่วนที่เหลือของยุโรปผ่านทางท่อส่ง Nord Stream 1 ซึ่งความคิดเห็นของเขาส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตัดสินใจของเยอรมนีเมื่อเดือนที่แล้ว หลังยังไม่มีการรับรองท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 รวมถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่กำหนดโดยมหาอำนาจตะวันตกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อันมุ่งเป้าไปที่การทำลายเศรษฐกิจรัสเซีย
สหรัฐฯ ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า จะห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซของรัสเซียทั้งหมด ในขณะที่สหราชอาณาจักรเผยถึงแผนจะหยุดการนำเข้าภายในสิ้นปีนี้ สหภาพยุโรปมีแผนที่จะลดการนำเข้าก๊าซของรัสเซียลง 2 ใน 3 แต่ความเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรปไม่ได้รุนแรงมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพราะการพึ่งพาพลังงานของรัสเซียอย่างหนัก
สหภาพยุโรปสร้างพลังงานประมาณ 1 ใน 4 จากก๊าซธรรมชาติ ในขณะที่รัสเซียคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของการนำเข้าของกลุ่ม Goldman Sachs กล่าวว่า การหยุดชะงักของการนำเข้าก๊าซเพิ่มเติมใดๆ อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน
การประเมินจาก Goldman Sachs ระบุว่า ในปี 2022 เนื่องจากราคาก๊าซที่สูงทั้งหมดอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของ GDP ของเขตยูโร 0.6% และสหราชอาณาจักร 0.1% ขณะที่ผลกระทบในเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะมากขึ้น เนื่องจากการพึ่งพาก๊าซของรัสเซียในระดับสูง
“สถานการณ์ที่รัสเซียหยุดการส่งออกทั้งหมดอาจทำให้การเติบโตของ GDP ในเขตยูโรลดลง 2.2% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์พื้นฐานของเรา โดยมีผลกระทบอย่างมากในเยอรมนี (-3.4%) และอิตาลี (-2.6%)”
ในด้านอัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ที่ก๊าซที่ไหลผ่านยูเครนถูกระงับอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่ม 0.7% ในสหภาพยุโรป โดยหากราคาก๊าซสูงขึ้นอีกเนื่องจากท่อส่งก๊าซจากรัสเซียถูกปิดตัวลง การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจสูงถึง 1.3% ต่อปี โดยมีแนวโน้มจะส่งผ่านไปยังราคาหลักได้อย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มที่ราคาพลังงานจะพุ่งสูงขึ้นอีกได้ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะมีช่วง ‘ซบเซา’ ซึ่งเศรษฐกิจโลกจะรุมเร้าด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการว่างงานที่สูง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการพึ่งพาการส่งออกไปยังยุโรปของรัสเซียและแหล่งรายได้ที่ลดลงในที่อื่นๆ ในแง่ของมาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศ นักยุทธศาสตร์ด้านการวิจัยของ BCA ได้เสนอแนะว่า ไม่น่าจะมีการหยุดชะงักโดยสมบูรณ์
“แม้ว่ามอสโกจะมีข้อตกลงใหม่กับปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อจัดหาก๊าซธรรมชาติให้กับ CNPC ของจีน ด้วยก๊าซเพิ่มอีก 10 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่ท่อส่งก๊าซที่วางแผนไว้ใหม่เหล่านี้จะใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์” มาติเยอ ซาวารี หัวหน้านักยุทธศาสตร์ยุโรปที่ BCA Research กล่าว
“ในระหว่างนี้รัสเซียจะต้องพึ่งพาการขายไปยังยุโรป เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการจู่โจมทางทหารในยูเครน และสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพในประเทศ”
ทั้งนี้ ความเสี่ยงของการหยุดชะงักของแหล่งพลังงานของยุโรป ซึ่งจะยังคงกดดันราคาก๊าซธรรมชาติในระยะสั้นต่อไป โดยจนกว่าความเสี่ยงของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะลดน้อยลง ต้นทุนพลังงานที่สูงในยุโรปุถึงจะลดลง
อ้างอิง: