×

ชัยชนะที่แท้จริงของ ‘ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น’

11.09.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • ชัยชนะครั้งนี้ของ เจ้าแหลม-ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ที่ตะบันหมัดขวาใส่หน้า ‘ช็อกโกลาติโต’ (Chocolatito) โรมัน กอนซาเลซ จนร่วงเป็นนกปีกหักแค่ยกที่ 4 เป็นการสยบทุกข้อสงสัยว่าชัยชนะในไฟต์แรกของเจ้าแหลมเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือโชคดี
  • ในขณะที่คนค่อนโลกมั่นใจว่าเข็มขัดแชมป์โลกในรุ่น ‘ซูเปอร์ฟลาย’ (ซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์) จะกลับไปอยู่ที่เอวของ โรมัน กอนซาเลซ แต่เจ้าแหลม ศรีสะเกษ ก็มั่นใจทั้งน้ำเสียง สีหน้า และแววตาว่าเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และไม่มีคำว่ากลัวแม้แต่น้อย
  • การล้มโคตรมวยอย่าง โรมัน กอนซาเลซ ได้ถึง 2 ไฟต์ติดต่อกันทำให้ศรีสะเกษ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริงในชั่วข้ามคืน

      ‘นี่คือบทใหม่ของประวัติศาสตร์มวย’

      แม็กซ์ เคลเลอร์แมน (Max Kellerman) ผู้บรรยายมวยชาวสหรัฐอเมริกา ทางช่อง HBO Boxing กล่าวหลังได้เห็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ ‘เจ้าแหลม-ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น’ หรือ ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย (Sor Rungvisai) ที่สยบทุกเสียงครหาด้วยการตะบันหมัดขวาใส่หน้า ‘ช็อกโกลาติโต’ (Chocolatito) โรมัน กอนซาเลซ จนร่วงเป็นนกปีกหักแค่ยกที่ 4

      ‘ไรท์ครอส’ หมัดนั้นไม่ต่างอะไรจากหมัดส่งวิญญาณนักมวยของยอดนักชกระดับตำนานชาวนิการากัว ให้ไปสู่สุคติ

      ภาพการร่ำไห้ด้วยหัวใจสลายของ ราเควล โดนา ภรรยาสาวของ กอนซาเลซ ก็บ่งบอกบทสรุปของเรื่องราวได้เช่นกัน

      เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องเห็นคู่ชีวิตซึ่งครั้งหนึ่งเป็นตำนานไร้พ่ายมานานถึง 46 ไฟต์ ต้องแพ้อย่างหมดสภาพเช่นนี้

      และนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอและชาวโลกได้เห็น โรมัน กอนซาเลซ พ่ายให้กับนักชกจากแดนอีสานของไทย

      ชัยชนะครั้งนี้สยบทุกข้อสงสัยว่าชัยชนะในไฟต์แรกของเจ้าแหลมเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือโชคดี

      เจ้าแหลม ศรีสะเกษ คนนี้คือ ‘ของจริง’ และเขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของวงการอย่างเป็นทางการ

 

 

ไฟต์ล้างตาที่ต้องใช้น้ำตาล้าง

      ความจริงการกลับมาพบกันอีกครั้งของคู่นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้หาก โรมัน กอนซาเลซ ไม่มีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่เท่าโลกในหัวใจ

      เพราะเขาไม่เชื่อว่าการพ่ายแพ้ในไฟต์ที่แล้วของเขาซึ่งเป็นการแพ้ครั้งแรกในสังเวียนด้วยนั้น เป็นการแพ้จริงๆ

      ฟากฝ่ายยอดนักชกที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ เชื่อว่าไฟต์ดังกล่าวมีการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม โดยนอกจาก ศรีสะเกษ จะชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์แล้ว ตัวเขายังเสียเปรียบจากแผลแตกที่หางคิ้วขวาซึ่งเกิดจากการศีรษะชนกันจนเลือดไหลเข้าตาตลอดการชก

      มันเป็นสิ่งที่เขาและทีมงานมองว่าเป็นการตุกติกของคู่ชกชาวไทย

      เมื่อมันยังคาใจ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือการยื่นประท้วงต่อสภามวยโลก (WBC) ทันทีที่ไฟต์จบลง

      ในฐานะอดีตแชมป์โลก 4 รุ่นอย่าง โรมัน กอนซาเลซ ต้องการล้างตาด้วยเลือดและชัยชนะ

      ตามกฎและตามสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายเองก็อยากเห็นไฟต์นี้เกิดขึ้นอีกครั้ง (ยกเว้นฝ่ายค่ายนครหลวงโปรโมชั่นที่อยากเจอคู่ชกคนอื่นก่อน) ทางสภามวยโลกจึงมีมติเมื่อวันที่ 5 เมษายน ให้ทั้งสองคนขึ้นชกไฟต์รีแมตช์ทันทีที่สภาพร่างกายพร้อม

      เพียงแต่ไฟต์ที่ว่าเกิดขึ้นเร็วมาก จากเดิมมีการคาดกันว่าไฟต์นี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี อย่างเร็วคือเดือนตุลาคม อย่างช้าคือเดือนพฤศจิกายน กลายเป็นว่ากำหนดการชกล้างตามีขึ้นในวันที่ 9 เดือน 9

      มันเร็วเกินกว่าที่ ‘ช็อกโกลาติโต้’ จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งหรือไม่? ตรงนี้น่าคิด

 

 

      แต่สำหรับเจ้าแหลมนั้นตัวเขาไม่บอบช้ำอะไรมากมายนักจากไฟต์แรก และการมีเวลาเตรียมตัวถึง 4 เดือนมันเยอะกว่าตอนที่รู้ตัวว่าจะต้องไปขึ้นชกกับ โรมัน กอนซาเลซ เมื่อต้นปีทีผ่านมาถึง 2 เท่า

      ไฟต์แรกเขามีเวลาเตรียมตัวแค่ 2 เดือนเท่านั้น ดังนั้นการมีเวลามากกว่าเดิม 2 เท่าทำให้เขาสามารถทำทุกอย่างได้ตามโปรแกรมการฝึก

      ในขณะที่คนค่อนโลกมั่นใจว่าเข็มขัดแชมป์โลกในรุ่น ‘ซูเปอร์ฟลาย’ (ซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์) จะกลับไปอยู่ที่เอวของ โรมัน กอนซาเลซ

      เจ้าแหลม ศรีสะเกษ ก็มั่นใจทั้งน้ำเสียง สีหน้า และแววตาว่าเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และไม่มีคำว่ากลัวแม้แต่น้อย

      สุดท้ายเราก็ได้เห็นอย่างที่เราได้เห็น

      เราได้เห็นไฟต์ที่ประทับใจคนทั้งโลก ไฟต์ที่ทำให้เราหัวใจเต้นระรัวเมื่อได้เห็นยอดนักชกชาวไทยเดินหน้าแลกหมัดกับนักชกระดับตำนานอย่างดุเดือด ไฟต์ที่ เจอร์เมน สแปรดลีย์ (Jermaine Spradley) บรรณาธิการของเว็บไซต์กีฬาชื่อดัง bleacherreport.com ยกย่องว่าเป็นไฟต์ที่ดีที่สุดในรอบ 15 ปี

      และบทสรุปไฟต์ที่นักมวยเซาท์พาว (Southpaw) หรือมวยซ้าย ใช้หมัดขวาบวกเข้าที่ใบหน้าของอดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่

      เป็นการปิดฉากไฟต์ล้างตาของ โรมัน กอนซาเลซ ด้วยหยาดน้ำตาของภรรยาสาว กับความภูมิใจที่ถูกฉีกขาดจนสะบั้น

 

 

จากยามเซ็นทรัลสู่ซูเปอร์สตาร์ผืนผ้าใบ

      “ไฟต์นี้ผมรู้ว่าผมจะน็อกเขาได้ครับ”

      ในถ้อยคำของผู้ชนะ มันอาจฟังดูน่าหมั่นไส้อยู่เล็กน้อยครับ

      แต่ถ้าใครรู้จักและใกล้ชิดกับ ศรีสะเกษ ย่อมรู้ว่ามันเป็นการพูดแบบซื่อๆ ของคนซื่อๆ ที่คิดอย่างไรก็พูดแบบนั้น

      มันเป็นการพูดแบบ ‘ไม่ได้โม้’ ในความหมายที่หมายความเช่นนั้นจริงๆ ไม่ได้แกล้งยียวนเหมือนคำพูดอมตะของอดีตฮีโร่กำปั้นของไทยตลอดกาลอย่าง สมรักษ์ คำสิงห์

      ศรีสะเกษ พูดแบบนี้เพราะเขามั่นใจกับการเตรียมตัวมาของตัวเอง ซึ่งเขาเชื่อว่าดีพอ และเราก็ได้เห็นแล้วว่าความมั่นใจนั้นไม่ได้เกินเลยไปจากความเป็นจริง

      มากไปกว่านั้นคือการที่เขามั่นใจว่า ณ เข็มนาฬิกาเดินไปนี้ต่อให้ต้องไปเจอกับใครเขา เขาก็เชื่อว่าเขาสู้ได้ทุกคน

      ไม่ว่าจะเป็น ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา หรือจะเป็น นาโอยะ อิโนะอุเอะ ที่เป็นมวยมือดีอีก 2 คนที่อยู่ในพิกัดเดียวกันก็ได้ทั้งนั้น

      อย่างไรก็ดีการล้มโคตรมวยอย่าง โรมัน กอนซาเลซ ได้ถึง 2 ไฟต์ติดต่อกันทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริงในชั่วข้ามคืน

      สถานะที่เปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนรู้ผิดชอบชั่วดีมาจากไหน มันมีโอกาสจะเผลอไผลได้

      ตรงนี้อยากเห็น ศรีสะเกษ ดูแลตัวเองให้ดีเหมือนที่ผ่านมา

      เพราะผมเชื่อว่าคนไทยมากมาย-ชื่นชอบและชื่นชมตัวเขาอย่างที่เขาเป็นจริงๆ

 

 

      เรื่องราวการต่อสู้ชีวิตที่ยากลำบาก ความกล้าหาญที่จะผจญภัยกับการตัดสินจากบ้านเกิดเมืองนอนมาด้วยเงินเพียง 4,000 บาท โดยที่ยังต้องดูแลชีวิตและหัวใจอีกหนึ่งดวงที่ตัดสินใจมาเผชิญโชคชะตาด้วยกัน ผ่านความยากลำบากมาด้วยกันสารพัด

      ในวันที่ลำบากชีวิตมันยากถึงขั้นเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ต้องหาเศษอาหารที่เหลือจากร้านอาหารในห้าง หรือวันที่มีเงินซื้อมาม่าเพียงห่อเดียวก็เลือกจะตักเส้นให้แฟนสาวได้กินจนอิ่มท้อง ส่วนตัวเองขอซดน้ำกับข้าวก็พอ

      มันเป็นเรื่องราวของสุภาพบุรุษตัวเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่

      เป็นเรื่องราวของคนที่สมควรดูเป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งในแง่ของความอดทน ความมุ่งมั่น การต่อสู้ที่ไม่ลดละ และการที่ไม่เคยละทิ้งความฝันแม้ในวันที่ชีวิตจะยากลำบากแค่ไหน

      เรื่องพวกนี้คือชัยชนะที่แท้จริงของชีวิต

      ดังนั้นไม่ว่า ศรีสะเกษ จะขึ้นชกอีกกี่ไฟต์ เขาก็ไม่มีวันแพ้

 

Photo: HBO Boxing

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising