×

ปรากฏการณ์ ‘ลูกเต็มเวลา’ ของคนรุ่นใหม่ในจีน เสียงสะท้อนจากแรงกดดันการทำงานหนักและวิกฤตการว่างงานที่รุนแรงขึ้น

12.09.2023
  • LOADING...

ในเดือนเมษายน Julie อดีตผู้พัฒนาเกมจากปักกิ่งวัย 29 ปี เลือกเส้นทางที่ไม่ธรรมดา เธอกลายเป็น ‘ลูกสาวเต็มเวลา’ หลังจากอดทนกับวันทำงานอันเหน็ดเหนื่อยกว่า 16 ชั่วโมง เธอก็รู้สึกเหมือนเป็น ‘ศพเดินได้’ และต้องการหยุดพัก ตอนนี้เธออุทิศวันและเวลาของเธอให้กับงานบ้าน โดยอาศัยพ่อ-แม่ของเธอเป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน 

 

แรงกดดันจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่รุนแรงและตลาดงานที่หางานได้อย่างยากลำบาก ทำให้คนหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนมาก เช่น Julie ตัดสินใจเลือกเช่นนั้น กลุ่มประชากรนี้ซึ่งเรียกตนเองว่า ‘ลูกเต็มเวลา’ (Full-Time Children) ที่มักพบการปลอบใจที่บ้าน ไม่ว่าจะเนื่องมาจากความเหนื่อยหน่ายในการทำงาน หรือไม่สามารถหางานทำได้

 

แนวโน้มนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่ได้รับการส่งเสริมให้เชื่อว่า การทำงานหนักและการศึกษาจะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ข้อมูลเผยให้เห็นภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานคนรุ่นใหม่ในประเทศจีน สถิติอย่างเป็นทางการระบุว่า มากกว่า 1 ใน 5 ของคนที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปีนั้นว่างงาน โดยอัตราการว่างงานของเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลเริ่มติดตามตัวเลขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมพื้นที่ในชนบท

 

แม้ว่า ‘ลูกเต็มเวลา’ หลายคนจะบอกว่าสถานะดังกล่าวเป็นเพียงชั่วคราว แต่การหางานยังคงมีความท้าทาย อย่างเช่น Julie สมัครงานมากกว่า 40 ตำแหน่งภายในสองสัปดาห์ แต่ได้รับคำเชิญให้สัมภาษณ์เพียงสองครั้งเท่านั้น ซึ่ง “ก่อนที่ฉันจะลาออกงานก็หายากแล้ว แต่พอลาออกก็ยิ่งยากขึ้น” เธอเปิดเผย

 

วัฒนธรรมการทำงานอันโด่งดังของจีนอย่าง ‘996’ ซึ่งทำงานตั้งแต่เวลา 9.00- 21.00 น. 6 วันต่อสัปดาห์ ส่งผลให้คนทำงานรุ่นใหม่จำนวนมากต้องเผชิญภาวะเหนื่อยหน่าย เช่น Chen Dudu ที่รู้สึกว่าได้รับค่าจ้างน้อยเกินไป และทำงานหนักเกินไปในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือ Jack Zheng จาก Tencent ที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพเนื่องจากความเครียดจากการทำงาน ซึ่งล้วนเป็นความท้าทายที่พวกเขาเผชิญ

 

นอกจากนี้ ความเชื่อทางสังคมที่เรียกว่า ‘คำสาปของคนอายุ 35 ปี’ ซึ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างชอบคนทำงานที่อายุน้อยกว่าและราคาถูกกว่า และเห็นได้ชัดว่าทำไมแม้แต่คนที่มีอายุ 30 ปีกลางๆ ก็ยังกังวลเกี่ยวกับโอกาสทางอาชีพของตน

 

ความรู้สึกหดหู่ใจยังขยายไปถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยด้วย บางคนจงใจสอบตกเพื่อชะลอการสำเร็จการศึกษา ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2012-2022 การลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 59.6% แต่ตอนนี้เสน่ห์ของการศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งเปรียบเสมือนตั๋วสู่ความสำเร็จ ได้ลดน้อยลง ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าวิกฤตการว่างงานของเยาวชนจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้สำเร็จการศึกษาใหม่จำนวน 11.6 ล้านคนกำลังหางานทำ

 

ความท้าทายทางเศรษฐกิจของจีนหลังโควิด ประกอบกับการปราบปรามอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมในหมู่คนทำงานรุ่นใหม่ เช่น บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และอุตสาหกรรมกวดวิชา ส่งผลให้วิกฤตการจ้างงานรุนแรงขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารัฐบาลจีนจะมองข้ามสถานการณ์นี้ ผู้นำจีน สีจิ้นผิง สนับสนุนให้คนหนุ่มสาว ‘กินความขมขื่น’ คำแนะนำโดยรวมคือต้องไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ซึ่งตราบใดที่พวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการตกงาน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising