- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศยอดตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 6.685 ล้านตำแหน่ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.618 ล้านตำแหน่ง จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง และความเชื่อมั่นของลูกจ้างที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณของการเปลี่ยนงาน
- เช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด กลับทำเนียบขาวเพื่อรักษาตัวต่อแล้ว หลังอาการติดเชื้อโควิด-19 ดีขึ้น โดยทีมแพทย์แถลงการณ์ว่าอาการของทรัมป์ดีขึ้น อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ยังคงต้องรับยาต้านไวรัส ‘เรมเดซิเวียร์’ และยาสเตียรอยด์ ‘เดกซาเมทาโซน’ ซึ่งปกติจะให้กับผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักต่อไปด้วย
- ฝรั่งเศสออกประกาศยกระดับเตือนภัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นสู่ระดับสูงสุด และให้บังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดแบบเข้มงวดสองสัปดาห์ ซึ่งประกอบไปด้วยการปิดบาร์ การใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมของร้านอาหาร การทำงานของพนักงานบริษัท และการเรียนครั้งละไม่เกิน 50% สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย หลังจากวันอาทิตย์ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสเปิดเผยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ต่อวันออกมาที่ 12,565 ราย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวมกว่า 619,190 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวม 32,230 ราย
- วานนี้บริษัทแอร์เอเชีย เจแปน สายการบินต้นทุนต่ำในเครือแอร์เอเชีย กรุ๊ปของมาเลเซีย ประกาศปิดกิจการในเดือนธันวาคมนี้ โดยจะยกเลิกเส้นทางการบินทั้งหมดในญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบต่อการดำเนินงานเป็นอย่างมาก โดยรายได้บริษัทลดลง 91% จนทำให้ประสบปัญหาขาดทุนสุทธิ 305.2 ล้านริงกิต (73.2 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 2/20 ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม โทนี เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์เอเชีย กรุ๊ป แถลงเพิ่มเติมว่า แอร์เอเชียจะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในปี 2564 จากการที่รัฐบาลต่างๆ ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น
- มาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ระบุว่า การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ระหว่างสองพรรคมีแนวโน้มที่จะผ่านการอนุมัติของรัฐสภาในเร็ววันนี้ แม้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้ารักษาการติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม โดยที่ผ่านมา ทรัมป์มีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง แม้ในขณะที่อยู่โรงพยาบาล เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะผ่านการอนุมัติของรัฐสภาในเร็ววันนี้
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการที่ดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว หลังติดโควิด-19 ประกอบกับปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังเทขายออกไปในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยตัวเลขยอดขายปลีกในยุโรปออกมาขยายตัวที่ 4.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.4% บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้ามาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ รวมทั้งการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ อาจลดลง โดยตัวเลขจะประกาศอีกครั้งในคืนวันพุธที่จะถึงนี้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งจากปัจจัยความคืบหน้าของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่จะส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากปัจจัยดังกล่าว
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 28148.64 เพิ่มขึ้น 465.83 (1.68%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3408.62 เพิ่มขึ้น 60.18 (1.8%)
- Nasdaq อยู่ที่ 11332.49 เพิ่มขึ้น 257.47 (2.32%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12828.31 เพิ่มขึ้น 139.27 (1.1%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5942.94 เพิ่มขึ้น 40.82 (0.69%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3220.22 เพิ่มขึ้น 29.29 (0.92%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19265.51 เพิ่มขึ้น 201.2 (1.06%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 23312.14 เพิ่มขึ้น 282.24 (1.23%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5941.6 เพิ่มขึ้น 150.1 (2.59%)
- Shanghai **ปิดทำการ
- SZSE Component **ปิดทำการ
- China A50 **ปิดทำการ
- Hang Seng อยู่ที่ 23767.78 เพิ่มขึ้น 308.73 (1.32%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12548.28 เพิ่มขึ้น 32.67 (0.26%)
- SET อยู่ที่ 1242.99 เพิ่มขึ้น 5.45 (0.44%)
- KOSPI อยู่ที่ 2358 เพิ่มขึ้น 30.11 (1.29%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4958.77 เพิ่มขึ้น 32.03 (0.65%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 38973.7 เพิ่มขึ้น 276.65 (0.71%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5938.95 ลดลง -60.45 (-1.01%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.17 (5.86%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 41.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.23 (5.68%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1912.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.17 (0.75%)
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
ที่มา:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
