ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้คำมั่นส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยการกำหนดเพดานสูงขึ้นสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต พร้อมส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ศูนย์ไปจนถึงปี 2023 เป็นอย่างน้อย
หลังสิ้นสุดการประชุมนโยบายการเงิน 2 วันเมื่อวานนี้ (16 กันยายน) Fed มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ตามความคาดหมาย
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ 13 จาก 17 คน คาดหวังว่า Fed จะคงดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ไปอีก 3 ปีเป็นอย่างน้อย โดยจะชะลอการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด ไปจนกว่าการจ้างงานในสหรัฐฯ จะเพิ่มเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
สำหรับกรอบเงินเฟ้อนั้น Fed ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความยืดหยุ่นขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยอนุญาตให้เงินเฟ้อเคลื่อนตัวเหนือเป้าหมาย 2% ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง หากเศรษฐกิจไม่สู้ดี ซึ่งการปรับเพดานเงินเฟ้อสูงขึ้นนั้น จะทำให้ Fed ไม่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเหมือนที่ทำในอดีต และจะสามารถคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ศูนย์ได้ต่อไป ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังต้องการมาตรการกระตุ้นอีกมากจากผลกระทบของโควิด-19
เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนไม่คาดหวังว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแนวทางใดๆ เพราะการฟื้นตัวยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกล แม้ว่าภาคครัวเรือนและธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากผลกระทบของโควิด-19 แล้วก็ตาม
พาวเวลล์เตือนด้วยว่า เศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง และการฟื้นตัวอาจสะดุดลงหากรัฐบาลไม่ใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาความช่วยเหลือของรัฐบาลมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการฟื้นตัวที่ดีกว่าที่คาด
สัญญาณที่ดีขึ้น ทำให้ Fed ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ เหลือหดตัวเพียง 3.5% จากเดิมที่ประมาณการไว้ในเดือนมิถุนายนว่าเศรษฐกิจอาจติดลบ 6.5% ในปี 2020 นอกจากนี้ Fed ยังคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาเหลือ 7.6% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งต่ำลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: