วิกฤตของโลกกีฬาที่หนักหนาที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลก ได้กลายเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการกีฬาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่กลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจของทั้งเหล่าแฟนๆ หรือแม้แต่ตัวของนักกีฬา ที่ได้ใช้จ่ายวันเวลาว่างที่มีเยอะขึ้นในระหว่างการ ‘ล็อกดาวน์’ ทั่วทั้งโลก
เรากำลังพูดถึง ‘Esports’ เกมกีฬาที่เป็นทั้งเกมและกีฬาได้ในเวลาเดียวกัน!
โดยนับตั้งแต่ที่การระบาดของโควิด-19 ลุกลามไปทั่วโลกและนำไปสู่มาตรการกักตัวและรักษาระยะห่างเพื่อหยุดการระบาดของโรคให้ได้เร็วที่สุด การแข่งขันกีฬาที่เคยเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนโลกและสังคมได้ถูกตัดขาดออกจากวงจรชีวิตของผู้คนอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่การแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชมนับพันนับหมื่น แค่การไปฝึกซ้อมของนักกีฬาในชีวิตประจำวันยังกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากและมีความเสี่ยงสูง ซึ่งไม่ใช่เสี่ยงแค่เฉพาะกับนักกีฬา (ที่ติดเชื้อจำนวนหนึ่ง) ยังเสี่ยงต่อครอบครัวและคนที่พวกเขารักด้วย
เมื่อเป็นเช่นนั้น กีฬาในชีวิตจริงจึงไม่สามารถทำได้อีก นอกจากการอดทนและเฝ้ารอคอยวันที่จะได้กลับมา และนำไปสู่กิจกรรมการฆ่าเวลาให้หายคิดถึงในรูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดกล่องความทรงจำรื้อฟื้นวันเวลาและความหลังเก่าๆ
หรือบางคนเลือกที่จะหันไปติดตามการแข่งขันกีฬาในแบบ Virtual หรือเสมือนจริงผ่านวิดีโอเกม ที่ในปัจจุบันมีการพัฒนาจนเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น พูดง่ายๆ คือเปลี่ยนจาก Sports ไปสู่ Esports เป็นการชั่วคราว โดยความน่าสนใจคือ จากที่เหมือนจะเป็นการเล่นเพื่อฆ่าเวลา ความสนุก ความตื่นเต้น และจิตวิญญาณของเกมกีฬาทำให้การแข่ง ‘เกมกีฬา’ นั้นจริงจัง เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น
กรณีศึกษาตัวอย่างที่น่าสนใจมากคือ การแข่งขันรถแข่งฟอร์มูลาวัน ซึ่งมีการเลื่อนหรือยกเลิกการแข่งขันไปร่วม 10 สนามในฤดูกาลนี้ แต่ปรากฏว่า มันกลายเป็นโอกาสของรายการ Esports ของพวกเขาในชื่อ ‘Virtual Grand Prix’ ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากแฟนๆ
The most hair-raising moment of Sunday’s #VirtualGP 😱@lundgaardoff and @arthur_leclerc7 make contact in the heat of their almighty fight for the podium places ⚔️#F1Esports #RaceAtHome pic.twitter.com/6XuCm1sKIV
— Formula 1 (@F1) April 6, 2020
บรรยาย: การแข่ง Virtual Grand Prix ได้รับความนิยมมาก เพราะตื่นเต้นไม่แพ้ของจริง
โดยในการแข่งขันสนามแรก ‘บาห์เรน กรังด์ปรีซ์’ มีจำนวนผู้ชมมากถึง 3.2 ล้านคน ซึ่งหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ การที่ไม่ได้มีเฉพาะแค่ ‘เกมเมอร์’ ตัวจริงที่ลงแข่งขัน แต่ยังมีเซเลบริตี้ และที่เด็ดที่สุดคือ มีนักขับรถแข่งจริงๆ มาลงแข่งขันด้วย
ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่น่าดึงดูดอย่างยิ่ง โดยในการสำรวจของ Nielsen พบว่า การสนทนาออนไลน์ (Online Discussion) ที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน มาจากคนช่วงอายุ 18-24 ปี ซึ่งข้อมูลตรงนี้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับทั้งเอฟวันเองหรือสปอนเซอร์ที่สามารถคิดกลยุทธ์ที่จะดึงกลุ่มคนเหล่านี้มาเพื่อเป็นฐานแฟนคลับหรือลูกค้าในอนาคต
และนั่นทำให้เมื่อถึงการแข่งสนามที่ 2 นักขับชื่อดังอย่าง ชาร์ลส เลอแกลร์ก ตัดสินใจที่จะลงแข่งขันด้วย และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ!
เลอแกลร์กไม่ใช่นักกีฬาคนเดียวที่เข้าร่วม และเอฟวันก็ไม่ใช่กีฬาเดียวที่มีการแข่งเสมือนจริง เพราะยังมีการแข่งเทนนิสที่เปลี่ยนจากการแข่งของจริงมาเป็นการแข่งเสมือนจริงแทนในรายการ ‘มูตัว มาดริด โอเพน’ ที่แม้แต่ ‘เอล มาทาดอร์’ ราฟาเอล นาดาล ยังขอร่วมวงแข่งกับเขาด้วย
ขณะที่หนุ่มๆ เองคงอยากเห็นลีลาการหวดในเกมของ ยูจินี บูชาร์ด หนึ่งในนักเทนนิสสาวที่มีแฟนคลับมากที่สุดในโลกเวลานี้ (ถึงขั้นมีคนขอออกเดตออนไลน์แลกกับการบริจาคเงินช่วยการกุศล!)
¡Vamos, Rafa! 🙌🏻#PlayAtHome 🎮 | #MMOPEN pic.twitter.com/tK3vGVYYnx
— #MMOPEN (@MutuaMadridOpen) April 15, 2020
บรรยาย: ราฟาเอล นาดาล ขอลงแข่งแบบ Virtual ด้วย
หรือการแข่งขันฟุตบอล Esports ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงมากที่สุด อย่างการแข่งเกม FIFA 20 ในรายการ #StayAndPlay ซึ่งมีเหล่าสตาร์มากมายเป็นตัวแทนของแต่ละสโมสรในการลงแข่งขัน เช่น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ล่าสุดผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้ว), จัสติน ไคลเวิร์ต กองหน้าดาวรุ่งจากโรมา, ฟิล โฟเดน ทายาทลูกหนังของ ดาบิด ซิลบา ในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ เจา เฟลิกซ์ ดาวรุ่งที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก
นั่นหมายถึงนักกีฬาเองก็เริ่มให้การยอมรับและสนใจการแข่ง Esports มากขึ้น ซึ่งยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเองด้วย และนั่นหมายถึงนี่อาจเป็นอีกบทบาทในชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้
แน่นอนสำหรับแฟนๆ การได้เห็นนักกีฬาตัวจริงมาลงแข่งขันแบบนี้มันน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น แม้ว่าฝีไม้ลายมือของแต่ละคนไม่อาจจะเทียบกับเหล่านักกีฬา Esports มือโปรได้ก็ตาม
ตามการรวบรวมสถิติของสำนักวิเคราะห์ Stream Hatchet เปิดเผยว่า การถ่ายทอดสดกีฬา Esports ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Twitch, YouTube Gaming, Facebook Gaming และ Mixer รวมถึงยังมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ปกติด้วยในช่วงตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นมา มีจำนวนระยะเวลาในการชมรวมสูงอย่างน่าตกใจถึง 495 ล้านชั่วโมง หรือคิดเป็นตัวเลขแล้ว มีการเพิ่มจากช่วงเริ่มปีที่ผ่านมาถึง 43 เปอร์เซ็นต์
หากเจาะลงไปที่แพลตฟอร์มใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Twitch ของบริษัท Amazon แล้ว มี Viewership ในเดือนมีนาคมสูงถึง 1,300 ล้านชั่วโมง หรือเพิ่มจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ตามการสำรวจของ Superdata โดย Nielsen
แน่นอนว่า จำนวนตัวเลขดังกล่าวไม่ได้มาจากตัวเลขของการที่มีการแข่งขันกีฬาออนไลน์ในแบบเสมือจริงบน Esports อย่างเดียว เพราะในโลกของ Esports มีเกมอีกมากมายที่ได้รับความนิยมสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็น Apex Legends, ROV, PUBG, DOTA2, League of Legends ซึ่งมีกลุ่มแฟนมากมายทั่วโลกที่มีเวลาให้ใช้จ่ายกับการติดตามมากขึ้นในช่วงของการกักตัวที่ผ่านมา
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในกลุ่มของเกมกีฬาจริงๆ อย่าง FIFA, PES, NBA, F1, เทนนิส หรือรถแข่ง NASCAR ก็เป็นที่น่าสนใจ และเริ่มดึงดูดแฟนกีฬาในชีวิตจริงให้เข้ามาสู่โลกของ Esports มากขึ้น (ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกมนั้นมีการออกแบบมาได้สมจริงใกล้เคียงกีฬาจริงด้วย)
ไม่ต่างอะไรจากการที่โลกกีฬาสองใบกำลังเริ่มทับซ้อนกัน และจะเกิดเป็นพื้นที่ตรงกลางระหว่างวงกลมสองวง พื้นที่ระหว่างกีฬาจริงกับกีฬาเสมือนจริง ที่วันนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วในเวลานี้ว่ามีโอกาสจะไปด้วยกันได้
และนั่นอาจเป็นการเปิดประตูมิติที่จะนำไปสู่สิ่งดีๆ อีกมากมาย ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://uk.reuters.com/article/us-health-coronavirus-esports/e-sports-pull-in-more-viewers-as-coronavirus-halts-live-sports-matches-idUKKBN21Y2SX
- https://www.ea.com/games/fifa/fifa-20/stay-and-play-cup#about
- https://www.wtatennis.com/news/1655852/bouchard-mladenovic-join-virtual-mutua-madrid-open-roster
- การแข่งเกม FIFA 20 รายการ Stay and Play Cup ทางด้าน EA บริษัทผู้พัฒนาเกมจะมอบเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ Global Giving’s Coronavirus Relief Fund
- เช่นเดียวกับรายการ Mutua Madrid Open Virtual Pro ที่ระดม 32 นักเทนนิสชายและหญิงจาก ATP และ WTA ที่จะระดมทุนเพื่อช่วยเหลือการต่อสู้กับโรคโควิด-19
- การแข่ง Virtual Grand Prix สนามที่ 3 ‘ไชนีส กรังด์ปรีซ์’ จะมีนักแข่งเอฟวันตัวจริงถึง 6 คน รวมถึง ติโบต์ กูร์ตัวส์ นายทวารทีมเรอัล มาดริด ขอลงแข่งด้วย