×

หมอมานพเผยข้อมูลการใช้วัคซีนในชิลี ชี้ Pfizer มีประสิทธิภาพดีกว่า Sinovac ย้ำวัคซีนทุกตัวไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากัน

โดย THE STANDARD TEAM
28.06.2021
  • LOADING...
สิทธิภาพวัคซีน

วันนี้ (28 มิถุนายน) ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ข้อมูลการใช้จริง (Real World Data) จากชิลีแสดงให้เห็นว่า วัคซีน Pfizer มีประสิทธิผล (Vaccine Effectiveness: VE) ดีกว่าวัคซีน Sinovac

 

“สองวันก่อนมีการแถลงข่าวของ Ministerio de Salud (กระทรวงสาธารณสุข) ประเทศชิลี รายงานสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศซึ่งทำเป็นประจำ ในการแถลงข่าววันนั้น Rafael Araos รายงานผลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนสองชนิดซึ่งใช้ในประเทศชิลี” 

 

นพ.มานพ ระบุต่อว่า หลายคนทราบดีว่าชิลีเป็นประเทศหนึ่งที่มี Vaccination Rollout เร็วมาก ในขณะนี้มีประชากรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้วกว่า 12 ล้านคน (65.4% เป็นรองเพียงแคนาดา) และได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วกว่า 10.2 ล้านคน ในช่วง 1-2 เดือนก่อน มีการระบาดหนักของโควิด-19 แม้จะมีการปูพรมวัคซีนไปมากถึง 40% ของประชากรจนทำให้ประเทศต้องประกาศล็อกดาวน์ใหม่ ในช่วงแรกชิลีใช้วัคซีน Sinovac เป็นหลัก และมีข้อมูลประสิทธิผลการป้องกันการเจ็บป่วยจากโควิด-19 ราวๆ 67% 

 

หลังจากนั้นชิลีได้จัดหาวัคซีนจาก Pfizer เข้ามาใช้เพิ่มเติม จนถึงวันที่รายงาน มีการฉีดวัคซีนของ Pfizer ไปแล้วราวๆ 5 ล้านโดส เมื่อวิเคราะห์ประสิทธิผลของวัคซีนสองชนิดเปรียบเทียบกัน ในผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วอย่างน้อย 14 วัน ในด้านการป้องกันการเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อแบบมีอาการ, การป่วยปานกลางต้องนอนโรงพยาบาล, การเข้า ICU และการเสียชีวิต

 

พบว่า Pfizer Vaccine มีประสิทธิผลสูงกว่า Sinovac Vaccine ในทุกด้าน ดังนี้

 

  • การป้องกันการป่วย 90.9% vs. 63.6%
  • ป่วยปานกลาง 97.1% vs. 87.3%
  • ป่วยหนักเข้า ICU 98.4% vs. 90%
  • เสียชีวิต 91.8% vs. 86.4%

 

“อย่างที่เคยบอกในโพสต์ก่อนหน้านี้ว่า การศึกษาเพื่อเปรียบเทียบวัคซีน Pfizer vs. Sinovac ทำได้ยากมาก เพราะมีไม่กี่ประเทศที่ใช้วัคซีนทั้งสองชนิดเป็นวงกว้าง และชิลีเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศนั้น ถือเป็นครั้งแรกที่มี Head to Head Study ทางคลินิกระหว่างวัคซีนสองชนิด หลังจากฮ่องกงทำการศึกษาเปรียบเทียบระดับแอนติบอดีไปก่อนหน้านี้” นพ.มานพ ระบุ

 

นพ.มานพยังระบุด้วยว่า จากข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านมา ทั้งการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลมิติต่างๆ ตั้งแต่ข้อมูลเฟส 1, 2, 3 การวัดแอนติบอดี การดูข้อมูลการใช้จริงในแต่ละประเทศของวัคซีนทุกชนิดในท้องตลาด สรุปได้ว่า

 

1. วัคซีนทุกชนิดมีประสิทธิภาพดีมากในการป้องกันไม่ให้เราป่วยหนักหรือเสียชีวิต ดังนั้นใครได้ฉีดวัคซีน ฉีดไปเลยครับ ไม่ต้องรอ วัคซีนช่วยจริงๆ

 

2. ประสิทธิภาพดีมาก ไม่ได้แปลว่ากันได้ 100% เราเห็นแล้วจากการใช้จริงในประเทศต่างๆ

 

3. ผลดีของวัคซีนมีหลายระดับ ตั้งแต่กันติด, กันป่วย, กันป่วยหนัก, กันตาย วัคซีนทุกตัวป้องกันไม่ให้เราป่วยหนักและตายได้ดีมาก แต่ผลที่ดีที่สุดของวัคซีนที่เราอยากได้มากที่สุดคือกันติด เพราะถ้าเราไม่ติด เราก็จะไม่ป่วย ไม่ป่วยหนัก ไม่เสียชีวิตจากโรคและมีวัคซีนเพียงบางตัวที่ทำได้

 

4, วัคซีนทุกตัว ‘ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากัน’ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกประเทศที่ใช้ เรามีวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงกว่า และประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า ต้องยอมรับความจริงได้แล้วครับ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising