×

วันที่ขวาปะทะซ้าย โดนัลด์ ทรัมป์ จะอยู่ครบวาระหรือไม่?

21.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ตลอดระยะเวลากว่า 8 เดือนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มีบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐฯ พ้นจากตำแหน่งไปแล้วถึง 12 คน ซึ่งรายล่าสุดคือ สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) กุนซือด้านกลยุทธ์คนสำคัญของทำเนียบขาว
  • การปลด สตีฟ แบนนอน พ้นจากตำแหน่ง อาจจะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงฝ่ายขวาที่สนับสนุนทรัมป์ และทำให้คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • นักวิชาการไทยชี้ การปลดสตีฟออกจากตำแหน่ง อาจะทำให้เขาระดมคนฝ่ายขวาได้ง่ายขึ้น โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นรกบนดิน อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์จึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

     การเมืองโลกกำลังร้อนแรง เพราะได้รับอิทธิพลจากการเมืองสหรัฐฯ แรงปะทะระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายกำลังสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมระหว่างประเทศ เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มอุดมการณ์ทางการเมืองในยุโรปเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเยอรมัน ฮังการี และฝรั่งเศส

     แรงกดดันที่ถูกสะสมไว้ในอดีตและพื้นที่สาธารณะในการพูดถึงความภาคภูมิใจของคนขาว (White Supremacy) ที่หายไป ส่งผลให้ปะทุออกมาเป็น ‘เหตุการณ์นรกบนดิน’ ที่ชาร์ลอตส์วิลล์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แรงปะทะระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายยังคงดำเนินเรื่อยมาตลอดทั้งสัปดาห์ เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนทางการเมืองของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้แสดงอาการลังเลที่จะโจมตีและประณามกลุ่มขวาจัดที่เป็นชนวนเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้น

 

Photo: Topshot Palestinian/AFP

     ผลพวงหนึ่งของแรงปะทะนี้ส่งผลให้ สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) กุนซือด้านการวางกลยุทธ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างและรักษาฐานเสียงฝ่ายขวาให้โดนัลด์ ทรัมป์ จนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อช่วงต้นปี 2017 ถูกทรัมป์ปลดจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) หลังจากที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สตีฟ แบนนอน มีความเห็นไม่ตรงกับสมาชิกทำเนียบขาวท่านอื่นๆ อย่างรุนแรง โดยสตีฟได้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มขวาจัดและกลุ่มชาตินิยมคนขาวในสหรัฐฯ อย่างสุดโต่ง

 

 

     สตีฟ แบนนอน นับเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐฯ จากทั้งหมด 12 คนที่พ้นจากตำแหน่ง ภายใต้การบริหารประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์ นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2017 จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลทรัมป์หลังจากนี้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เนื่องจากบุคคลที่มีความสามารถและอาจจะเป็นกำลังสำคัญให้กับรัฐบาลต่างถูกปลดและประกาศลาออกจากตำแหน่งกันเป็นจำนวนมาก

     ไม่ว่าจะเป็น แอนโทนี สการามุชชี (Anthony Scaramucci) อดีตผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร ที่อยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 2 สัปดาห์ หรือ ฌอน สไปเซอร์ (Sean Spicer) โฆษกทำเนียบรัฐบาล ที่ประกาศลาออกหลังจากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่แต่งตั้งแอนโทนี เป็นผอ. ด้านงานสื่อ รวมถึง เจมส์ โคมี (James Comey) ผู้อำนวยการเอฟบีไอที่ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากเขาสืบทราบว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมา เป็นต้น

 

 

ทรัมป์อาจเสียฐานสนับสนุนฝ่ายขวา หลังปลดกุนซือหัวขวาจัด

     หลังจาก สตีฟ แบนนอน บรรณาธิการสำนักข่าวขวาจัด Breitbart และหัวหน้านักวางกลยุทธ์คนสำคัญของทำเนียบขาวถูกปลดจากตำแหน่ง โจเอล โพลลัค (Joel Pollak) บรรณาธิการอาวุโสของสำนักข่าวขวาจัดได้ออกมาทำนายทิศทางการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อจากนี้ โดยกล่าวว่า ทรัมป์กำลังหลงทางและกำลังจะสูญเสียฐานเสียงฝ่ายขวาที่สนับสนุนเขา หลังปลดสตีฟออกจากตำแหน่ง

 

 

     “ตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์กำลังถูกสั่นคลอนและใกล้จะประสบความล้มเหลว”

     นับตั้งแต่การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งของทรัมป์ มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ มาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดแรงปะทะระหว่างฝ่ายขวาจัดและซ้ายสุดโต่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะส่งผลให้คะแนนนิยมในตัวทรัมป์ลดลงอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

Photo: SAUL LOEB/AFP

     คาร์ล เบิร์นสเตน (Carl Bernstein) ผู้สื่อข่าวของ CNN รายงานว่า “สมาชิกรีพับลิกันในรัฐสภา เจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูง และนักธุรกิจชั้นนำของสหรัฐฯ ต่างตั้งคำถามถึงบทบาทและหน้าที่ของทรัมป์ โดยมองว่า เขาไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนี้” นอกจากนี้วุฒิสมาชิกบางท่านยังแนะนำให้ทรัมป์ไปทำแบบทดสอบวัดระดับปัญหาสุขภาพจิตอีกด้วย

     ทางด้าน ผศ.ดร. จันจิรา สมบัติพูนศิริ อาจารย์ประจำสาขาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความขัดแย้งและการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี มองว่า “การที่สตีฟถูกปลดตำแหน่งและกลับไปอยู่สำนักข่าว Breitbart อาจจะยิ่งทำให้การระดมผู้สนับสนุนฝ่ายขวาจัดและชาตินิยมผิวขาวในสหรัฐฯ ให้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองทำได้ง่ายขึ้น เราอาจจะมีโอกาสเห็นเหตุการณ์นรกบนดิน แบบที่เกิดขึ้นที่เมืองชาร์ลลอตวิลส์ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต”

     การปลดกุนซือที่มีความคิดขวาจัดจะส่งผลต่อความมั่นคงและทิศทางการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การปะทะกันระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายกำลังดุเดือดในช่วงเวลานี้ และอาจจะทำให้คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีลดลงจาก 36% สร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีคะแนนนิยมน้อยที่สุดในรอบหลายสิบปีก็เป็นได้

     …หรือโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะดำรงตำแหน่งไม่ครบวาระ?

 

Photo: Jim Watson/AFP

 

อ้างอิง:

FYI

     ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 8 เดือนที่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มีบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐฯ พ้นจากตำแหน่งไปแล้วถึง 12 คน ได้แก่

  • สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) หัวหน้านักกลยุทธ์คนสำคัญของทำเนียบขาว
  • แอนโทนี สการามุชชี (Anthony Scaramucci) ผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร
  • ฌอน สไปเซอร์ (Sean Spicer) โฆษกทำเนียบรัฐบาล ลาออกหลังความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล
  • เจมส์ โคมี (James Comey) ผู้อำนวยการเอฟบีไอ
  • ไรซ์น พรีบัส (Reince Priebus) เสนาธิการทำเนียบขาว ลาออกหลังจากมีเรื่องบาดหมางกับแอนโทนี
  • ไมเคิล ดับกี (Michael Dubke) ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของทำเนียบขาว คนก่อนหน้าแอนโทนี
  • วอลเตอร์ ชาร์บ (Walter Shaub) ผู้อำนวยการด้านจริยธรรมของรัฐบาล
  • ไมเคิล ฟลินน์ (Michael Flynn) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
  • แซลลี เยตส์ (Sally Yates) อัยการผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลโอบามา ถูกปลดจากตำแหน่งหลังจากที่ทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่งได้เพียง 10 วัน
  • พรีต บาห์ราร่า (Preet Bharara) อัยการสหรัฐฯ
  • เคที วอล์ช (Katie Walsh) รองเสนาธิการทำเนียบขาว คนสนิทของไรซ์น และพรีบัส
  • ไมเคิล ชอร์ต (Michael Short)  ตำแหน่ง Press Aide

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising