กระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์กเปิดเผยต่อสำนักข่าว Reuters ว่า รัฐบาลเดนมาร์กยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะทำอย่างไรกับวัคซีนต้านโควิด-19 ของ AstraZeneca ที่เหลืออยู่ ภายหลังเป็นประเทศแรกที่หยุดการใช้งานวัคซีนดังกล่าว เนื่องจากกังวลต่อปัญหาลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือดต่ำ ที่ปรากฏในรายงานของอังกฤษและหลายประเทศในยุโรป
ก่อนหน้านี้ เดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก และ ดร.ฮานส์ คลุกก์ ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้เดนมาร์กแบ่งปันวัคซีน AstraZeneca ที่เหลืออยู่ แก่ประเทศอื่นๆ ที่จำเป็น โดย คลุกก์ แสดงความมั่นใจในความปลอดภัยและประโยชน์ของวัคซีนจาก AstraZeneca ที่มีมากกว่าความเสี่ยงจากภาวะลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นได้ยาก
“ผมเข้าใจว่า กระทรวงการต่างประเทศของเดนมาร์กนั้นพร้อม หรือกำลังมองหาทางเลือกสำหรับการแบ่งปันวัคซีน AstraZeneca กับประเทศอื่นๆ” เขากล่าว
ขณะที่ ดร.แคทเธอรีน สมอลล์วูด ผู้จัดการเหตุการณ์โควิด-19 ประจำภาคพื้นยุโรปของ WHO ชี้ว่าศักยภาพของรัฐบาลเดนมาร์ก ในการป้องกันและควบคุมให้อัตราการติดเชื้อภายในประเทศอยู่ในระดับต่ำเพียงไม่ถึง 1% ทำให้เดนมาร์กสามารถเลือกใช้งานวัคซีนตามที่ต้องการได้
จากข้อมูลของสถาบันวิจัยวัคซีน Statens Serum Institut ของเดนมาร์ก พบว่า ณ ปัจจุบัน เดนมาร์กมีวัคซีนจาก AstraZeneca ราว 200,000 โดส และเตรียมรับมอบอีกประมาณ 3.5 ล้านโดส ตามข้อตกลงสั่งซื้อก่อนหน้านี้
ขณะที่มีหลายประเทศที่แสดงความสนใจและต้องการวัคซีน AstraZeneca ที่เหลืออยู่จากเดนมาร์ก โดยสาธารณรัฐเช็กเสนอที่จะซื้อวัคซีน AstraZeneca ทั้งหมดจากเดนมาร์ก เช่นเดียวกับเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย รวมถึงฟิลิปปินส์ ที่แสดงความสนใจด้วย
ภาพ: Davide Pischettola / NurPhoto via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: