×

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวดที่มาแรงสำหรับชาวออฟฟิศซินโดรม

08.01.2021
  • LOADING...
ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

HIGHLIGHTS

  • คุยกับหมอกาแฟ-ชญานนท์ นวนพรัตน์สกุล แพทย์แผนจีนมือหนึ่งแห่ง Saran Clinic พร้อมแนะนำวิธีการรักษายอดนิยม โดยการรักษาแบบฝังเข็มร่วมกับการครอบแก้ว ที่เป็นเทรนด์การรักษามาแรงสำหรับชาวออฟฟิศซินโดรม 

มีรายงานมากมายที่หาอ่านได้ตามบทความของโรงพยาบาลชื่อดังต่างๆ ที่ระบุตรงกันว่าคนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมกันทั้งนั้น ซึ่งมีตั้งแต่ช่วงอายุ 16-44 ปี ซึ่งพบได้มากที่สุด ส่วนใหญ่จะมีไลฟ์สไตล์นั่งโต๊ะเป็นเวลานานในพื้นที่จำกัด ขาดการยืดเหยียดเปลี่ยนท่า บางคนก้มมองโทรศัพท์มือถือติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้คือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม ที่ส่งผลเสียต่อสายตา ระบบทางเดินหายใจ รวมถึงอาการทางระบบกล้ามเนื้อที่พบได้มากที่สุด เช่น การปวดหลัง ปวดคอ ไหล่ตึง เมื่อยตามร่างกาย ข้อต่อกระดูก บางคนเป็นนิ้วล็อก และลามไปถึงอาการปวดหัว ปวดไมเกรตตามมาด้วย เมื่อคนไทยส่วนใหญ่เป็นโรคออฟฟิศซินโดรมกันมากขนาดนี้ ที่พึ่งสำคัญที่เป็นจุดหมายของทุกคนจึงหนีไม่พ้นคลินิกแพทย์แผนจีน ที่ถือว่ามาแรงมากๆ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวออฟฟิศซินโดรม 

 

แม้แต่ผู้เขียนเองก็หลีกหนีโรคนี้ไม่พ้นเช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องเดินทางตามแผนที่มายัง Saran Clinic ซึ่งตั้งอยู่ในซอยพระรามเก้า 57 ว่ากันว่าที่แห่งนี้โดดเด่นเรื่องการฝังเข็ม ครอบแก้ว จัดกระดูก สปาตา ฯลฯ ซึ่งเป็นหมุดหมายยอดฮิตของเหล่าคนเมืองที่มักแวะเวียนมาใช้บริการเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดให้ทุเลาเบาบางลง เราได้พบกับ หมอกาแฟ-ชญานนท์ นวนพรัตน์สกุล แพทย์แผนจีนมือหนึ่งที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการฝังเข็มและครอบแก้ว เราจะพาทุกคนไปไขความลับของเทรนด์รักษาความเจ็บปวดว่าเพราะอะไรทำไมถึงได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ 

 

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

 

จุดเริ่มต้นของศาสตร์แพทย์แผนจีน

หมอกาแฟ: ศาสตร์แพทย์แผนจีนในประเทศจีน จริงๆ มีนานแล้วกว่า 4,000 ปี นะครับ เรียกว่าเป็นศาสตร์ที่ก่อกำเนิดมาก่อนสมัยพุทธกาลอีก ส่วนที่ประเทศไทยของเราเอง ต้องยอมรับว่าแพทย์แผนจีนรวมถึงการรักษาด้วยศาสตร์แผนจีนต่างๆ เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากกระทรวงสาธารณสุขเองที่เขาเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนแพทย์แผนจีนในประเทศไทย ซึ่งให้การยอมรับว่าการรักษาด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน ก็ถือเป็นการรักษาอีกแขนงหนึ่ง และมีการอนุญาตให้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนด้วย 

 

จุดเด่นของการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน

หมอกาแฟ: ศาสตร์แพทย์แผนจีนมีจุดเด่นตรงที่มันเป็นธรรมชาติบำบัด จะใช้ทุกอย่างที่เป็นธรรมชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาอาการต่างๆ รวมถึงมีการกระตุ้นให้ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้ต่อไป หลักการอธิบายง่ายๆ สมมติว่าคนๆ หนึ่งไม่ว่าจะป่วยเป็นโรคอะไรก็ตาม ส่วนสำคัญคืออยู่พฤติกรรมที่ผ่านมาของตัวเราเองทั้งนั้น เรานอนไม่พอเอง เรากินอาหารไม่ดีเอง เราไม่ออกกำลังกายเอง อีกส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการป่วยคือจากโรคภายนอก อย่างสถานการณ์ปัจจุบันก็เช่นมีโรคโควิด-19 เข้ามา เป็นต้น การรักษาด้วยศาสตร์จีน อย่างของจีนเอง เขาจะทำให้ร่างกายของคนเราแข็งแรงก่อน ต่อให้มีเชื้อโรคภายนอกอะไรเกิดขึ้น ก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าเรามีร่างกายที่แข็งแรงเป็นเกราะป้องกัน และการรักษาที่แพร่หลายในปัจจุบันมี 2 ทางหลักๆ คือการฝังเข็ม และการรักษาด้วยสมุนไพร 

 

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

 

การวินิจฉัยโรคก่อนฝังเข็มมีขั้นตอนอย่างไร

หมอกาแฟ: หลักๆ ก็จะวินิจฉัยจากการตรวจ ด้วยการสังเกตลักษณะของลิ้น การแมะ (จับชีพจรบริเวณข้อมือ) ซึ่งจะสามารถบ่งบอกได้ถึงพลังของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายว่าผิดปกติหรือมีปัญหาจุดไหนบ้าง รวมถึงการซักถามพูดคุย เพื่อให้ได้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้ให้เยอะที่สุด แล้วนำมาประมวลผล ซึ่งผลลัพธ์ของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ปวดหัวเหมือนกัน แต่บางคนปวดหัวเพราะความเย็น ขณะที่บางคนปวดหัวเพราะความร้อน การรักษาก็จะไม่เหมือนกัน 

 

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

 

ปัญหาอันดับ 1 ของคนไข้ชาวไทย ที่รักษาได้ด้วยการฝังเข็ม+ ครอบแก้ว

หมอกาแฟ: แน่นอนว่าต้องเป็นออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคคนเมืองที่พบได้บ่อย สำหรับที่นี่ก็จะใช้วิธีการรักษาแบบฝังเข็มร่วมกับการครอบแก้ว ซึ่งจะได้ผลดีที่สุด ซึ่งสามารถทำการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีนดังนี้

 

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

 

การฝังเข็ม

คือการที่แพทย์ใช้เข็มขนาดเล็กปักลงในจุดต่างๆ ของร่างกาย แล้วกระตุ้นโดยใช้นิ้วมือหมุนปั่น หรือใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เพื่อแก้ไขการไหลเวียนของเลือดลมปราณที่ติดขัด ปรับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้สมดุล กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย สรรพคุณของการฝังเข็ม สามารถรักษาอาการปวดหลัง, ปวดศีรษะ, มือเท้าชา, อัมพฤกษ์, อัมพาต, นอนไม่หลับ, เครียดไมเกรน, วิตกกังวล, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, โรคกล้ามเนื้อเอ็น ข้อกระดูก และปลายประสาทชา, ปวดข้อรูมาตอยด์, ตะคริว, ชาปลายมือปลายเท้า, ข้อเข่าเสื่อม, อาการปวดต่างๆ รวมถึงโรคฮิตอย่างออฟฟิศซินโดรมด้วย 

 

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

 

การครอบแก้ว

เป็นการบำบัดอาการปวด คือการใช้กระปุกสุญญากาศครอบไปบนผิวหนัง โดยมีวิธีทำให้กระปุกเกิดสุญญากาศ ทั้งจากการใช้ไฟลนภายในกระปุกก่อนที่จะครอบลงบนผิวหนัง หรือการที่ใช้อุปกรณ์ดูดอากาศออกจากกระปุกที่ครอบลงไปแล้ว ซึ่งการครอบแก้วมีสรรพคุณคือช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของโลหิต, ปรับการไหลของเลือดลม ไม่ให้เกิดการอุดตัน, ช่วยบรรเทาอาการอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการคั่งของของเสีย, กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง, เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และการตอบสนองต่อการอักเสบ, กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท, ช่วยบรรเทาอาการปวดเคล็ดตามเส้น, ช่วยจำกัดของเสีย และระบายความชื้นออกจากร่างกาย, ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ทำให้แข็งแรงและมีพละกำลังเพิ่มขึ้น

 

ฝังเข็ม ครอบแก้ว เทรนด์รักษาความเจ็บปวด

 

ภาพ: Saran Clinic 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

FYI
  • Saran Clinic ตั้งอยู่ที่ซอยพระรามเก้า 57 ให้บริการการรักษาทางเลือก เช่น ฝังเข็ม ครอบแก้ว กัวซา จัดกระดูก และสปาตา 
  • เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.
  • ราคาฝังเข็ม: ราคาปกติ 850 บาท/ครั้ง, ราคาคอร์ส 5 ครั้ง 4,250 บาท (+ฟรี 1 ครั้ง), 10 ครั้ง 8,500 บาท (+ฟรี 3 ครั้ง) และ 20 ครั้ง 17,000 บาท (+ฟรี 7 ครั้ง) 
  • ราคาครอบแก้ว: ราคาปกติ 500 บาท/ครั้ง, ราคาคอร์ส 5 ครั้ง 2,500 บาท, 10 ครั้ง 4,000 บาท 
  • โทรนัดหมายได้ที่ โทร. 09 7197 3715, Facebook: saranclinicbkk, Instagram @saranclinic
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X