หลังจาก Bloomberg ได้ออกมาเปิดเผยว่า เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ RD ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือแฟรนไชส์ร้านไก่ทอดชื่อดัง KFC จำนวน 200 สาขา กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขายร้านทั้งหมดที่อยู่ในมือด้วยมูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.2 พันล้านบาท ทำให้เป็นที่จับตามองว่าใครจะได้ไป
หนึ่งในนั้นคือ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือ CRC ซึ่งเป็นแฟรนไชส์รุ่นบุกเบิก และปัจจุบันมีร้าน KFC อยู่ในมือกว่า 284 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2563)
THE STANDARD ได้มีโอกาสพูดคุยสั้นๆ กับ ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ถึงเรื่องดังกล่าว โดยณัฐได้เปิดเผยว่าตอนนี้ CRG กำลังศึกษาและภายในกำลังดูอยู่ เพียงแต่ข้อมูลที่ได้รับมาเป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ เชื่อว่า RD เสนอทุกคนที่มีโอกาสจะเข้าซื้อ
“อยู่ที่ว่าใครจะสนใจ CRG เองก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้น เพราะ CRG มีร้าน KFC อยู่แล้ว ถ้าพูดถึงในมุมของเรา สิ่งที่เรารู้อยู่แล้วคือในเรื่องของ Operation ว่าควรทำอย่างไร”
ตลาดไก่ทอดในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะไก่ถือเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของคนไทย ทว่าโอกาสย่อมมาพร้อมกับความท้าทาย โจทย์ใหญ่ของตลาดไก่ทอดนั้นมีหลายข้อด้วยกัน ทั้งการเกิดคู่แข่งรายใหม่ๆ เช่น Texas Chicken หรือแม้แต่ BonChon เองก็ใช่
นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งในสมรภูมิเดียวกันที่ต่างขับเคี่ยวชนิดไม่มีใครยอมใคร และยังมีเมนูอาหารใหม่ๆ ที่เข้ามาชิงเงินที่อยู่ในกระเป๋าของผู้บริโภคอีกด้วย
“การจะซื้อหรือไม่นั้นต้องดูหลายเรื่อง ราคาตามข่าว 6.2 พันล้านบาทแพงไปหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ต้องดูในราคาที่เหมาะสม ดูผลประกอบการและกำไรประกอบด้วย ปัจจุบัน KFC ทำรายได้มากที่สุดให้กับร้านอาหารในเครือ CRG มีสัดส่วนประมาณ 40-50%”
ก่อนหน้านี้ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป มีโอกาสซื้อกิจการร้าน KFC 200 สาขาของ RD หากบรรลุข้อตกลงขึ้นมาจริงๆ
โดย CENTEL นั้นมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง หากเข้าซื้อจะไม่กระทบมากนัก ขณะที่ราคานั้นเมื่อเฉลี่ยออกมาแล้วอยู่ที่ 31 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งถือว่าน้อยกว่าดีลรอบก่อนที่ไทยเบฟได้ไปในราคา 47 ล้านบาทต่อสาขา
อย่างไรก็ตาม RD มีผลประกอบการที่ขาดทุนมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2562 ขาดทุนที่ 127 ล้านบาท หาก CENTEL ได้มาอาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น แต่ในระยะยาวเชื่อว่า CENTEL จะบริหารแล้วมีกำไรได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
