สรุปปมกระจายวัคซีน ศบค.-สธ.-กทม. และแนวทางสำหรับผู้ที่ถูกเลื่อนนัด

จากกรณีที่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกประกาศเลื่อนนัดฉีดผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ตั้งแต่วันที่ 14-20 มิถุนายน และหลังจากทั้งกระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) และ กทม. ต่างก็ออกมาให้สัมภาษณ์และให้ข้อมูลการจัดสรรวัคซีนในมุมมองของตนเอง

จนกระทั่งวันนี้ (14 มิถุนายน) ได้มีการแถลงข่าวร่วมกันในประเด็นการจัดการวัคซีน ทั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในฐานะผู้สั่งการจัดสรรวัคซีน กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้มีหน้าจัดสรรวัคซีนให้องค์กรต่างๆ และ กทม. ในฐานะผู้มีหน้าที่กระจายวัคซีนไปยังหน่วยฉีดต่างๆ THE STANDARD สรุปสถานการณ์การจัดสรรวัคซีนของประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ช่วงเย็นวันที่ 11 มิถุนายน ต่อเนื่องจนกระทั่งวันที่ 12 มิถุนายน หลายโรงพยาบาลประกาศเลื่อนนัดการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนฉีดผ่านทางระบบหมอพร้อม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง พร้อมระบุเหตุผลว่า รอการจัดสรรวัคซีน หรือไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากภาครัฐ
วันที่ 13 มิถุนายน อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ถึงกรณีดังกล่าวว่า กระทรวงจัดสรรวัคซีนให้ กทม. ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วไป 5 แสนโดส ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตกลงจะจัดสรรให้ กทม. 1 ล้านโดส นี่ยังไม่ถึง 2 สัปดาห์ ได้ส่งให้ กทม. ไปครึ่งหนึ่งแล้ว คำว่าวัคซีนไม่ได้ส่งจากกระทรวงสาธารณสุข พูดไม่ได้ พูดอย่างนี้ปราศจากความรับผิดชอบ ให้ไปถามสำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ กทม. ควรจะต้องบริหารจัดการวัคซีนที่ได้รับไปจากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ทำตามที่ ศบค. มอบหมาย
กระทรวงสาธารณสุขโพสต์ประกาศผ่านแฟนเพจ ความว่า “กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนตามที่ ศบค. กำหนด เพื่อส่งไปยังทุกจังหวัด รวมทั้ง กทม. ส่วนการจัดสรรวัคซีนไปยังหน่วยฉีดของแต่ละจังหวัดเป็นหน้าที่ของจังหวัดนั้นๆ และ กทม. ดำเนินการเอง” แต่ต่อมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โพสต์ดังกล่าวถูกลบออกจากทุกช่องทางที่มีการโพสต์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรคมีหน้าที่กระจายวัคซีนตามคำสั่งของ ศบค. ซึ่งจะเป็นฝ่ายประเมินว่าแต่ละพื้นที่ต้องการเท่าไร โดยรับความประสงค์มาจากพื้นที่นั้นๆ สำหรับกรณีที่โรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. เลื่อนฉีดนั้น ขอให้ไปสอบถามจากสำนักอนามัย กทม. ถึงรายละเอียดการจัดสรร
ช่วงเย็นวันเดียวกัน กทม. ออกมาชี้แจงว่า ตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขนั้น กทม. ได้รับการแจ้งว่าจะได้รับการจัดสรร AstraZeneca 2.5 ล้านโดส ซึ่งให้ กทม. ไปทำแผนการฉีดให้สอดคล้อง และในช่วงวันที่ 7-14 มิถุนายนที่ผ่านมา กทม. ได้รับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 3.5 แสนโดส Sinovac 1.5 แสนโดส โดยได้กระจายไปสำหรับฉีดเข็มที่ 2 และกระจายไปพื้นที่ที่มีการระบาดสูง และยังได้กระจายให้กับผู้ที่จองผ่านระบบหมอพร้อมด้วย สำหรับการจองผ่านระบบหมอพร้อม เป็นการเปิดให้โรงพยาบาลทุกแห่งใน กทม. มาช่วยกันฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่เปิดพร้อมกันทั้งประเทศ กทม. ไม่ใช่ผู้ควบคุมและผู้ที่จัดสรรวัคซีน โดยในเดือนมิถุนายนนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมใน กทม. มีทั้งสิ้น 4.5 แสนราย และระบุทิ้งท้ายว่า กทม. พร้อมทั้งสถานที่ พร้อมทั้งบุคลากร และหาก ‘วัคซีนพร้อม’ ตามแผน กทม. พร้อมจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที
ต่อมาเวลาประมาณ 22.50 น. กทม. ออกประกาศ ขอเลื่อนการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ลงทะเบียนในโครงการ ‘ไทยร่วมใจ’ ซึ่งเป็นการจองคิวฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล 25 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป แต่ยืนยันว่าจะรีบดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่ลงทะเบียนโดยเร็วที่สุดทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน จะมี SMS แจ้งวันและเวลานัดหมายล่วงหน้า
เช้าวันที่ 14 มิถุนายน อนุทินให้สัมภาษณ์ว่า จะหาทางสื่อสารระหว่าง กทม. และกรมควบคุมโรค ให้ลงรายละเอียดกันมากกว่านี้ ต้องปรับปรุงการสื่อสาร ส่วนผู้ที่จองผ่านหมอพร้อม เบื้องต้นจะหาแนวทางให้ไปรับการฉีดที่สถานีกลางบางซื่อแทน
ศบค., สธ. และ กทม. ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแผนบูรณาการการจัดสรรวัคซีน ยืนยันว่าได้มีการวางแผนการกระจายวัคซีนล่วงหน้าแล้ว แต่เมื่อเกิดความคลาดเคลื่อนในการจัดส่งวัคซีนตามแผน ก็ต้องมีการปรับแผนตามสถานการณ์ ซึ่งต้องขออภัยประชาชน แต่เมื่อได้รับวัคซีนแล้ว จะเร่งการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนที่ลงทะเบียนแล้วโดยเร็วที่สุด
อนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองและ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แล้ว โดยมีการทำความเข้าใจให้ตรงกัน ช่วยกันทำงาน โดยเฉพาะประเด็นปัญหาการกระจายวัคซีนโควิด-19