×

ปวดตุบขึ้นมาทันที ไมเกรนใช่ไหมแบบนี้? จะทำอย่างไรดีเมื่อมีไมเกรนเป็นเพื่อนสนิทคอยถามหา?

06.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • อาการปวดหัวไมเกรนมีลักษณะเด่นไม่เหมือนกับอาการปวดหัวชนิดอื่นๆ คนที่เป็น Classical Migraine มักจะมีอาการปวดหัวตุบๆ ข้างเดียว และอาจจะมีอาการทางร่างกายอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว ตาเห็นดาวระยิบระยับ ฯลฯ และทุกครั้งที่ปวดก็มักจะเกิดขึ้นในลักษณะเดิมๆ
  • บางคนมีอาการปวดที่สัมพันธ์กับช่วงใกล้มีประจำเดือน บางคนมีปัจจัยกระตุ้นเป็นอาหารบางอย่าง บางคนมักจะปวดไมเกรนเวลาเครียด นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ อากาศเปลี่ยนแปลง บางคนปวดไมเกรนทุกครั้งที่กินอาหารที่มีผงชูรส หรืออาหารที่ใช้น้ำตาลเทียมเป็นส่วนประกอบ ฯลฯ

     ในวันที่โลกนี้เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ชีวิตเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ชาว workaholic หลายคนจึงมีอาการปวดหัวไมเกรนเป็นราวกับเพื่อนสนิทที่คอยแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนกันอยู่บ่อยครั้ง เวลาปวดแต่ละทีอาการก็หนักหน่วงเสียจนพานให้ต้องหงุดหงิด หมดแรง นอนพัก ออกไปไหนไม่ไหว

 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไมเกรน

     ไมเกรนไม่ใช่โรค แต่เป็นคำเรียกกลุ่มอาการปวดศีรษะเป็นๆ หายๆ ส่วนมากแล้วมีอาการปวดตุบๆ ข้างเดียว และหลายครั้งมีอาการทางระบบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไมเกรนนั้นมีแตกต่างกันออกไปมากมาย

 

ไมเกรนเกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง

     อาการปวดหัวไมเกรนมีลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนกับอาการปวดหัวชนิดอื่นๆ คนที่เป็น Classical Migraine มักจะมีอาการปวดหัวตุบๆ เพียงข้างเดียว และอาจจะมีอาการทางร่างกายอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว ตาเห็นดาวระยิบระยับ ฯลฯ และทุกครั้งที่ปวดมักจะเกิดขึ้นในลักษณะเดิมๆ ถ้าสังเกตกันให้ดีๆ จะพบว่าบางคนมีอาการปวดที่สัมพันธ์กับช่วงใกล้มีประจำเดือน บางคนมีปัจจัยกระตุ้นเป็นอาหารบางอย่าง เช่น วานิลลา ชีส อาหารรสเค็ม หรือบางคนมักจะปวดไมเกรนเวลาเครียด นอนไม่หลับ นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ หมอเคยเจอคนไข้บางคนปวดไมเกรนทุกครั้งที่กินอาหารที่มีผงชูรส หรืออาหารที่ใช้น้ำตาลเทียมเป็นส่วนประกอบ หลายครั้งที่ไปเจอกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น นั่งทำงานอยู่ในห้องแอร์ที่อากาศเย็นจัด พอเดินออกไปข้างนอกออฟฟิศตอนพักเที่ยงที่อากาศร้อนจัด สักพักก็เกิดอาการไมเกรนได้เช่นกัน

     ทั้งนี้การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง หรือยาคุมกำเนิด ก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดไมเกรนในบางคนได้เช่นกัน แม้จะบอกว่าไมเกรนมักจะมีอาการปวดหัวตุบๆ แค่ข้างเดียว แต่หลายคนที่เป็นไมเกรนก็อาจจะมีอาการปวดหัวที่แตกต่างออกไปได้ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เราปวดหัวอยู่นั้นเป็นไมเกรนหรือเปล่า?

     ง่ายที่สุดคือหาหมอเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยครับ หมอเฉพาะทางที่ดูแลรักษาเรื่องไมเกรนโดยตรงก็คือคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมระบบสมอง หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่าหมอนิวโร (Neurologist) นั่นเอง การที่จะต้องหาคุณหมอผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านสมองก็เพราะอาการปวดหัวของคนเรานั้นมีสาเหตุได้มากมาย เช่น โรคทางสมองบางอย่าง หรือบางครั้งเป็นเพราะความเครียด ในบางคนอาจเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณต้นคอกดทับเส้นประสาท บางคนปวดหัวเพราะมีปัญหาทางสายตาซ่อนเร้นอยู่ เพราะอย่างนี้ ก่อนจะฟันธงสรุปว่าคุณเป็นไมเกรน คุณหมอจำเป็นต้องตรวจร่างกาย เจาะเลือด ในคนไข้บางรายอาจจำเป็นต้องทำการเอ็กซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะหาสาเหตุว่าอาการปวดหัวของคุณเกิดจากอะไรกันแน่

ก่อนจะฟันธงสรุปว่าคุณเป็นไมเกรน คุณหมอจำเป็นต้องตรวจร่างกาย เจาะเลือด ในคนไข้บางรายอาจจำเป็นต้องทำการเอ็กซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะหาสาเหตุว่าอาการปวดหัวของคุณเกิดจากอะไรกันแน่

 

วิธีดูแลรักษาตัวเองเมื่อเป็นไมเกรน

     เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่าเกิดจากไมเกรน การรักษาที่คุณหมอนิยมให้กันมีอยู่ 2 อย่าง คือการให้ยาแก้ปวด กับการป้องกันไม่ให้ไมเกรนกลับมาเป็นบ่อยๆ สำหรับยาแก้ปวดไมเกรน ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลายชนิดตั้งแต่พาราเซตามอล แอสไพริน ไปจนถึงยากลุ่มคาร์เฟอกอต (Carfegot) การตอบสนองต่อยาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนใช้ยาตัวนี้ได้ผลดี ในขณะที่บางคนกินแล้วไม่หายก็มี มีเคล็ดลับการกินยารักษาอาการปวดหัวไมเกรนให้ได้ผลดี นั่นคือหากรู้สึกว่ากำลังจะปวดไมเกรนแล้ว ให้รีบกินยาดักเอาไว้ก่อนเลย ส่วนมากถ้าเรากินยาหลังจากมีอาการไปสัก 1-2 ชั่วโมงแล้วถึงหยิบยามากิน แบบนี้เม็ดเดียวมักจะไม่หาย และต้องกินยาซ้ำเป็นเม็ดที่สองครับ

     สำหรับยาที่ใช้ในการป้องกันไมเกรนนั้นมีหลายกลุ่ม เช่น ยาต้านซึมเศร้า ยากันชัก ปกติแล้วคนที่จำเป็นต้องใช้ยาป้องกันไมเกรน ได้แก่ กลุ่มคนไข้ที่มีอาการปวดหัวบ่อยๆ ปวดมากกว่า 4 ครั้งต่อเดือน, อาการปวดแต่ละครั้งกินเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง, ทุกครั้งที่ปวดจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย ถ้ามีอาการพวกนี้ คุณหมอมักแนะนำให้ต้องกินยาป้องกันครับ

     อย่างไรก็ตาม เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน ก็คือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของตัวเรานั่นเอง สำหรับเรื่องนี้ Mayo Clinic มีคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยไมเกรนดังต่อไปนี้ครับ

     ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น นั่งสมาธิ เล่นโยคะ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจของเราได้ผ่อนคลาย ไม่เครียดกับอะไรๆ จนเกินไป

     นอนหลับพักผ่อนให้พอดี แต่อย่านอนหลับนานจนเกินไป อะไรที่น้อยเกินไปหรือมากเกินไปนั้นไม่ดีหรอกครับ จำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมคือคืนละ 6-8 ชั่วโมง รวมทั้งจัดสิ่งแวดล้อมในการนอนหลับพักผ่อนให้เหมาะสม ห้องนอนควรมืดสนิท เงียบสงบ

     ใช้แผ่นเย็นประคบที่ต้นคอและท้ายทอย พร้อมกับนวดเบาๆ ในวันที่รู้สึกเครียด จะช่วยป้องกันไมเกรนได้ดีทีเดียว

     พยายามจดบันทึกอาการปวดศีรษะ หรือที่เรียกว่า Headache Diary ว่าในวันที่ปวดไมเกรนคุณกินอะไร คุณทำอะไรมาบ้างในวันนั้น บางทีคุณจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่ามีปัจจัยบางอย่างอันใดที่กระตุ้นให้เกิดการปวดศีรษะก็เป็นได้ครับ

     นอกจากนี้ยังมีการแพทย์ทางเลือกสำหรับผู้ป่วยไมเกรน เช่น การฝังเข็ม การนวด วิตามิน หรือสมุนไพรบางอย่าง แต่ก่อนจะใช้ยาเหล่านั้น ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเองครับ

 

อ้างอิง:

FYI
  • มีบันทึกทางการแพทย์เกี่ยวกับอาการไมเกรนมาตั้งแต่สมัยอียิปต์แล้ว ผู้ที่ทำการศึกษาอาการปวดไมเกรนอย่างจริงจังคือ Galen of  Pergamon ศัลยแพทย์ชาวกรีกที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 129 ปีก่อนคริสตกาล เขาเป็นคนแรกที่พบว่าสาเหตุของไมเกรนเกี่ยวข้องกับเส้นเลือดบริเวณศีรษะที่มีความผิดปกติ
  • มีวิจัยทางการแพทย์บางฉบับบอกว่า หากกินวิตามินบี 2 และโคเอ็นไซม์ Q10 เป็นประจำจะช่วยป้องกันไมเกรนได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม วิจัยดังกล่าวทำการศึกษาในประชากรจำนวนไม่มากนัก จึงยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเท่าไร
  • มีบุคคลผู้มีชื่อเสียงมากมายทนทุกข์ทรมานจากอาการไมเกรน ไม่ว่าจะเป็นจูเลียส ซีซาร์, แอนน์ แฟรงก์, โทมัส เจฟเฟอร์สัน, เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ฯลฯ ว่ากันว่าลูอิส แคร์รอล ก็ปวดไมเกรนเป็นประจำ และภาพหลอนที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งที่ปวดหัวมากๆ ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหญิงผู้หลงเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ นั่นคือจุดกำเนิดของ Alice in Wonderland ซึ่งใครจะรู้ว่านั่นคือผลผลิตจากไมเกรนนั่นเอง
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising