เป็นที่น่าสนในอย่างมากเมื่อ CJ Express บริษัทค้าปลีกสัญชาติไทย ซึ่งวันนี้มี ‘บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)’ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้วางแผนที่จะแต่งตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อติดนามสกุล ‘มหาชน’ ภายในไตรมาส 2 ปี 2565
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด หรือ CJ กล่าวอย่างชัดเจนกับ THE STANDARD WEALTH ว่า หากถามว่าใครคือคู่แข่งโดยตรงกับ CJ Express คำตอบคือ Mini Big C และ Lotus’s go fresh ที่เพิ่งรีแบรนด์มาจาก Tesco Lotus Express
หมายคนอาจคาดว่า คู่แข่งหลักในตลาดร้านสะดวกซื้อที่ CJ Express ย่อมต้องเป็น 7-Eleven ซึ่งตัวเลข ณ กันยายน 2563 มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 12,225 สาขา พร้อมกับวางแผนขยายสาขาให้ครอบ 13,000 สาขา ภายในปี 2564
ตีความจากคำพูดของเสถียร การที่ 7-Eleven ไม่ใช่คู่แข่งหลักอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนอกจากจำนวนสาขาที่ต่างกันนับ 10 เท่าแล้ว รายได้หลักของ 7-Eleven มากถึง 70% มาจากกลุ่มของอาหารด้วยกัน
ขณะที่ CJ Express วางตัวเองให้เน้นสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีครบ คุ้ม ราคาประหยัดเหมือนกันไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งแน่นอน Positioning ที่ว่านี้ดันตรงกับ Mini Big C และ Lotus’s go fresh ที่มีพี่ใหญ่เป็นไฮเปอร์มาเก็ต และยังมีสินค้าที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก คือเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก
ในเมื่อ CJ Express มอง Mini Big C และ Lotus’s go fresh เป็นคู่แข่งหลัก THE STANDARD WEALTH จึงขอเทียบให้ดูว่า เมื่อวัดขุมพลังกันแล้ว แต่ละแบรนด์เป็นอย่างไรกัน
ภาพประกอบ: กรินวสุรัฐกร