×

‘เสถียร’ บิ๊กคาราบาวกรุ๊ป พูดครั้งแรกในรอบหลายปี ชี้ปัจจัยเสี่ยงต้องระวังในการทำธุรกิจ มีทั้งตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ-เศรษฐกิจโลกชะลอ

03.08.2023
  • LOADING...
เสถียร เสถียรธรรมะ

ซีอีโอ ‘คาราบาวกรุ๊ป’ หวั่นตั้งรัฐบาลล่าช้ากระทบกำลังซื้อ ระบุต้องระวังการลงทุน หลังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งการเมืองในประเทศ เศรษฐกิจโลกชะลอ ดอกเบี้ยโลก พร้อมประกาศเลื่อนแผนทำไอพีโอ CJ Express หลังภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อ 

 

เสถียร เสถียรธรรมะ ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG กล่าวว่า สถานการณ์โดยทั่วไปในขณะนี้มองว่าประชาชนมีความกังวลในประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความล่าช้า อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับความจริงของสังคมไทยซึ่งมีบริบทที่ไม่สามารถพูดได้ในมุมใดมุมหนึ่ง 

 

โดยการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความยุ่งยากในขณะนี้ มองว่าเกิดจากกฎกติกาที่มีความบิดเบี้ยว ส่งผลให้ทุกสิ่งดำเนินไปในแบบที่ไม่ควรจะเป็น ดังนั้นก็จะเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย

 

“ภาพรวมกำลังซื้อของประเทศไทยหลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดมา 3 ปีต่อเนื่อง ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพรวมกำลังซื้อทั่วประเทศให้ลดลงอยู่แล้ว และมีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ถูกผลกระทบ ต้องปิดกิจการไปเป็นจำนวนหลายแห่ง” 

 

สำหรับการดำเนินธุรกิจของคาราบาวกรุ๊ปจะมีความระมัดระวังและต้องปรับตัวในการทำแผนขยายธุรกิจและการลงทุนในปี 2566 โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของคน สังคม รวมถึงปัจจัยการเมืองที่ตั้งรัฐบาลล่าช้า อีกทั้งปัจจัยความเสี่ยงของโลกที่ปัจจุบันมีปัญหาทั้งสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และภาพรวมแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงการชะลอตัวที่มีผลกระทบต่อธุรกิจส่งออก อีกทั้งยังมีผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศฝั่งตะวันตกที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งหลายปัจจัยเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่บริษัทก็พยายามบริหารจัดการให้รายได้ของกลุ่มในปี 2566 เติบโต 20% จากปีก่อน 

 

โดยเสถียรยังระบุว่า ถือเป็นการกลับมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนครั้งแรกในรอบหลายปี 

 

ด้าน วีรธรรม เสถียรธรรมะ ประธานกรรมการ บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ระบุว่า สำหรับร้าน CJ Express บริษัทคาดว่ายอดขายรวมในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 4.6-4.8 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตราว 33% จากปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการขยายสาขาต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนงานในปีนี้มีแผนจะลงทุนเพิ่มสาขาใหม่จำนวน 250 สาขา

 

ปัจจุบันมีจำนวนสาขาประมาณ 1,120 สาขา ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าก่อสร้างคลังสินค้าที่จังหวัดขอนแก่น คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2567 ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น แต่ระยะเวลาอาจล่าช้ากว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ในปีนี้ เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึงบรรยากาศการลงทุนอาจไม่ดีมากนัก แต่ในแง่ธุรกิจบริษัทมีความพร้อมเต็มที่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising