×

ชูวิทย์ปิดจบภารกิจแฉเพื่อชาติ เปิดข้อมูล-ปมขัดแย้งเรื่องที่ดินกับเศรษฐา จากนี้ขอให้ สส.-สว. ช่วยพิจารณาคุณสมบัตินายกฯ ให้ดี

โดย THE STANDARD TEAM
21.08.2023
  • LOADING...
ชูวิทย์ แฉเพื่อชาติ

วันนี้ (21 สิงหาคม) ที่โรงแรม The Davis Bangkok ซอยสุขุมวิท 24 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดแถลงข่าวโดยใช้ชื่อว่า ‘ตอกฝาโลงพฤติกรรมนิติกรรมอำพราง’ 

 

ชูวิทย์กล่าวว่า วันนี้จะเป็นการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของตน ช่วงเวลาที่ผ่านมามีการโจมตีตนในหลายๆ เรื่อง แต่ตนจะแสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้เป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก โดยชูวิทย์ได้ถือซองเอกสารพร้อมระบุว่า เอกสารนี้เป็นโฉนดที่ดินที่มีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นที่ดิน 13 ไร่ใจกลางถนนสุขุมวิท

 

จากนั้นชูวิทย์ได้นำโฉนดออกมาจากซองพร้อมกับระบุว่า นี่คือโฉนดต้นเหตุ เป็นโฉนดที่มีการระบุชื่อ ด.ช.เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินดั้งเดิมของเศรษฐา เมื่อถูกธนาคารยึดชูวิทย์จึงได้ไปซื้อมาจากธนาคารเมื่อปี 2542 ทั้งหมดมี 9 โฉนด ที่ผ่านมา เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พยายามขอซื้อคืน แต่ชูวิทย์ไม่ได้ขาย

 

ชูวิทย์ระบุว่า จากนี้จะเป็นการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งตนย้ำมาตลอดว่าการที่ทำอยู่ถือเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ตนวิพากษ์วิจารณ์เศรษฐาในฐานะบุคคลสาธารณะ ไม่ได้หยิบยกประเด็นเรื่องส่วนตัวขึ้นมาพูด พร้อมกันนี้ตนอยากฝากไปถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ทำหน้าที่ของตัวเองในการตรวจสอบอย่างเต็มที่

 

ตลอดการจัดแถลงที่ผ่านมาครั้งที่ 1, 2 และ 3 พฤติการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นไม่ได้เรียกว่าเป็นการเก็บเงินค่าคอมมิชชัน แต่สิ่งนี้คือคอร์รัปชัน และสำหรับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่คอยโจมตีตน ตนอยากบอกอีกครั้งว่าตนไม่ได้ลงสมัครนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นไม่ถือว่าเป็นปัญหา

 

ชูวิทย์เริ่มกล่าวถึงที่ดินซอยสุขุมวิท 12 ซึ่งเป็นที่ดินเปล่าจำนวนขนาด 884 วา ติดกับถนนสุขุมวิท เดิมถือครองโดยบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด มีผู้ถือหุ้น 4 ราย ประกอบด้วย บริษัท ศิวะ โฮลดิ้ง จำกัด 7.14%, บริษัท แรมแบรนดท์โฮลดิ้ง จำกัด 51.43%, บริษัท ศิวะ ไฮทส์ จำกัด 5.71% และบริษัท ไทยฟีลาเมนต์เท็กซ์ไทล์ จำกัด 35.71% มีทุนจดทะเบียน 175 ล้านบาท ที่ดินผืนนี้ได้จดจำนองไว้กับธนาคารเอกชน วงเงินกู้ 1,000 ล้านบาท

 

ชูวิทย์กล่าวต่อว่า จากนั้นวันที่ 11 มีนาคม 2559 บริษัทที่มีพฤติการณ์เป็นนอมินีชื่อบริษัท CLOUD CITY LIMITED ที่ตั้งอยู่ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แต่ถือสัญชาติซามัว ร่วมกับบุคคลที่ชูวิทย์ระบุว่าเป็นนอมินี ร่วมกันซื้อหุ้นบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด มูลค่า 175 ล้านบาท แบ่งกันถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท CLOUD CITY LIMITED 48.57%, บริษัท Active Talent Limited 1% และโชคชัย ชาวจังหวัดมุกดาหาร 51.43% รวมทั้งปลดจำนองที่ดินดังกล่าวจากธนาคาร 1,000 ล้านบาท

 

ในระหว่างการอธิบาย ชูวิทย์ได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) มาแสดง พร้อมระบุว่า ครั้งนี้บุคคลที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องก็ยังเป็น รปภ. ที่รับหน้าที่เป็นนอมินี เป็นประธานบริษัทเช่นเดียวกับการแถลงที่ผ่านมา

 

ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม 2559 มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด เป็นบริษัท CLOUD CITY LIMITED 99.99%, บริษัท Active Talent Limited 1% และพธศลย์ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสกล มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 1%

 

จากนั้นขายที่ดินซอยสุขุมวิท 12 โดยบันทึกที่กรมที่ดินมูลค่า 499.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 565,000 บาทให้กับบริษัท พัฒนศิริ จำกัด ที่มีบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 99.99%, เศรษฐา ทวีสิน 1 หุ้น, อภิชาติ 1 หุ้น, วันจักร์ 1 หุ้น, อุทัย 1 หุ้น และนพพร 1 หุ้น และต่อมาบริษัท พัฒนศิริ จำกัด นำไปจำนองกับธนาคารมูลค่า 2,556 ล้านบาท

 

ชูวิทย์กล่าวต่อว่า การซื้อ-ขายที่ดินที่เกิดขึ้น บริษัทที่เป็นนอมินีได้ยื่นเอกสารรับรองบริษัทในขณะที่คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ให้กับกรมที่ดินตรวจสอบ แทนที่จะยื่นเอกสารรับรองสถานะล่าสุดที่บริษัทต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ นี่นับเป็นข้อรั่วไหลที่พบ

 

จากนั้นบริษัท พัฒนศิริ จำกัด ได้ขายหุ้นให้บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนในนามบริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ฟิฟทีน จำกัด และปัจจุบันที่ดินดังกล่าวมีสถานะเป็นของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 

 

ชูวิทย์กล่าวว่า บริษัท EY Office Limited บริษัทบัญชีระดับโลก ได้ตรวจสอบงบการเงินของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พบว่า มีการบันทึกต้นทุนที่ดินอยู่ที่ 1,850 ล้านบาท

 

โดยชูวิทย์ได้ตั้งสมการคำนวณ นำ 1,850 ล้านบาท หักออกด้วยหนี้ที่กู้ยืมจากธนาคาร 1,000 ล้านบาท หักออกด้วยราคาต้นทุนของบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด มูลค่า 175 ล้านบาท จะเหลือเงิน 675 ล้านบาท ต่อมาพบว่าถูกโอนไปที่บริษัท CLOUD CITY LIMITED

 

ชูวิทย์กล่าวว่า ขบวนการต่างๆ นี้บุคคลที่ชื่อว่าพธศลย์ หรือที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสกล เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญและเป็นคนดำเนินการ ทั้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหุ้น การจัดหานอมินี นำเงินไปซื้อ-ไปขายที่ดิน เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

 

ระหว่างการแถลงข่าว ชูวิทย์ได้นำสำเนาเอกสารของการทำนิติกรรมที่ดินดังกล่าวและภาพสถานที่ตั้งของบริษัท CLOUD CITY LIMITED มาแสดงต่อสื่อมวลชน

 

ชูวิทย์ได้เปิดเผยข้อมูลของพธศลย์โดยระบุว่า เป็นนอมินีคนสำคัญของทศพงศ์ หรือขงเบ้ง ผู้อยู่เบื้องหลังในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ที่ก่อนหน้านี้ชูวิทย์ระบุว่ามีความสนิทกับเศรษฐา

 

ชูวิทย์กล่าวว่า พธศลย์ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด, บริษัท เรียลตี้ จำกัด ที่มีชื่อทศพงศ์ถือหุ้น 49.97%, บริษัท พี เรสซิเด้นท์ จำกัด และบริษัท แนเชอรัล เพลส จำกัด ซึ่งมีบุคคลในครอบครัวเศรษฐา นามสกุลจูตระกูล ร่วมถือหุ้น

 

จากนั้นชูวิทย์แสดงแผนผังที่เรียกว่า Connection Tree พร้อมระบุว่า อภิชาติ จูตระกูล เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเศรษฐา และเศรษฐากับ ทศพงศ์ จารุทวี เป็นคู่เขยกัน ในรายละเอียดชูวิทย์ได้เชื่อมโยงแผนผังครอบครัวและการรู้จักกันระหว่างบุคคลต่างๆ กับบริษัทที่ปรากฏชื่อไปตอนต้น 

 

พร้อมระบุว่า พวกคุณไม่สามารถปฏิเสธหรือผลักความรับผิดชอบว่านอมินีเหล่านั้นเป็นฝ่ายผู้ขายได้ เพราะทุกความเชื่อมโยงชี้ว่า นอมินีที่จัดขึ้นมาเกี่ยวโยงกับผู้ซื้อเกี่ยวโยงกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

 

“ถ้าเป็นไปตามแบบนี้ คุณจะเป็นนายกฯ ได้อย่างไร คุณเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยไม่ได้” ชูวิทย์กล่าว

 

ชูวิทย์ได้แสดงความเชื่อมโยงในกรณีของบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ที่เปิดเผยข้อมูลไปก่อนหน้านี้ กับกรณีของบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด ที่พบว่ามีพฤติการณ์คล้ายกันคือ หลังเสร็จสิ้นการทำนิติกรรมที่ดิน บริษัททั้งสองจะถูกปล่อยร้าง พร้อมตั้งข้อสังเกต ดังนี้

 

  1. ทำไมทุกครั้งที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดิน บริษัทผู้ขายจะมีนอมินีเป็น รปภ.?

 

  • เพราะมีบริษัท รปภ. ชื่อบริษัท แม็กซ์ เพาเวอร์ การ์ด จำกัด ที่ถือหุ้นใหญ่โดยพี่สาวของทศพงศ์ จัดหานอมินี รปภ. ให้ ทศพงศ์มีลูกสาวชื่อ รวิพรรณ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 7 ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และเป็นคนใกล้ชิดของเศรษฐา 

 

  1. ทำไมทุกครั้งที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดิน บริษัทที่ขายจะกลายเป็นบริษัทร้าง?

 

  • เพราะไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 5 ปี ไม่ใช่การเลิกบริษัท เนื่องจากไม่จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% จากการทำกำไรในการขายที่ดิน จึงทำให้กลายเป็นบริษัทร้าง

 

  1. ทำไมทุกครั้งที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดิน ผู้มีอำนาจลงนามของผู้ขายถือหุ้นแค่ 1 หุ้น แต่มีอำนาจควบคุม เซ็นชื่อแทน แม้ว่าจะถือหุ้นน้อยกว่าคนอื่น?

 

  • เพราะนอมินีที่ลงนามล้วนเป็นบุคคลใกล้ชิดที่ทำงานให้กับทศพงศ์ ซึ่งทำหน้าที่เพียงลงนามในนิติกรรมแทน

 

  1. ทำไมทุกครั้งที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดิน จะมีเงินทอนเสมอ?

 

  • เพราะเป็นเงินที่ได้เร็ว โดยไม่ต้องควักเงินจากกระเป๋าตัวเองมาลงทุน แต่ใช้เงินของผู้ถือหุ้นแทน

 

  1. ที่ดินซอยสุขุมวิท 12 ของบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด มีเงินทอน 675 ล้านบาทจากการลงบัญชีงบการเงินของบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก EY Office Limited ที่ลงไว้ 1,850 ล้านบาท แต่กลับจ่ายจริงแค่ 1,175 ล้านบาท แถมยังลงบันทึกหลอกขายที่กรมที่ดินไว้เพียง 499 ล้านบาท

 

  1. มีการจัดตั้งบริษัทต่างประเทศ (Offshore Company) แต่เป็นบริษัทผี โดยระบุที่อยู่ที่ฮ่องกง แต่กลับเป็นบริษัทที่เกาะซามัว ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศนิวซีแลนด์ และใช้ฮ่องกงเป็นฐานในการฟอกเงินจากประเทศไทย

 

ชูวิทย์กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบให้ดี ตรวจสอบให้ด่วน แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ และเรื่องนี้ตนได้ส่งจดหมายเอกสารไปถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้ได้พิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อวิเคราะห์ถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ หากเศรษฐาได้เป็นนายกฯ ตนเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน คณะรัฐมนตรีจะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

 

ชูวิทย์กล่าวในช่วงท้ายว่า ผมหวังแบบประชาชนคนไทยว่าเศรษฐาจะรับทราบด้วยทางใดทางหนึ่ง หรือด้วยจิตสำนึก คุณจะต้องรู้ว่าที่ผ่านมาคุณทำอะไรไว้

 

การที่คุณมีความเกี่ยวโยงพัวพันกับขบวนการดังกล่าว ความซื่อสัตย์ตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ความซื่อสัตย์นั้นคือความซื่อสัตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่ในอดีต สิ่งต่างๆ ที่ตนนำเสนอมาตลอดไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นอะไรถึงความซื่อสัตย์ของเศรษฐา

 

ในวันพรุ่งนี้ (22 สิงหาคม) สส. และ สว. ที่ได้รับข้อมูลเหล่านี้ที่ตนได้ส่งไป ขอให้ท่านได้พิจารณาให้ดีว่าบุคคลคนนี้ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

 

“ภารกิจแฉเพื่อชาติของผมถือว่าจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะไม่ได้มาเห็นผมนั่งแถลงข่าวแบบนี้อีก คุณจะไม่เห็นผมมาแฉใครอีก คุณจะไม่เห็นผมในการมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ ที่ผมต้องทนเอาร่างกายที่ผุพัง ร่างกายที่มีมะเร็งมากัดกิน ผมจำเป็นต้องกินยาและลุกขึ้นมาพูดเรื่องนี้เพื่อให้จบภารกิจผม ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงนอนตายตาไม่หลับ” ชูวิทย์กล่าวในที่สุด

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X