×

‘ปาฏิหาริย์แห่งโคเปนเฮเกน’ สรุปเหตุการณ์การช่วยชีวิต คริสเตียน อีริกเซน

โดย THE STANDARD TEAM
13.06.2021
  • LOADING...
คริสเตียน อีริกเซน

หนังสือพิมพ์ในเดนมาร์กพาดหัวว่า ‘เดนมาร์กแพ้ แต่ชีวิตชนะ’ เพราะแม้ว่าทีมเดนิช ไดนาไมต์ของพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้แก่ทีมชาติฟินแลนด์ไปในเกมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 แต่ถึงตอนนั้นผลการแข่งขันไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไรเลยเมื่อเทียบกับชีวิตของ คริสเตียน อีริกเซน กองกลางจอมทัพของทีมที่รอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์

 

ภาพของกองกลางวัย 29 ปีที่หมดสติล้มลงไปที่ข้างสนามในช่วงท้ายครึ่งแรกก่อนที่ผู้ตัดสิน แอนโทนีย์ เทย์เลอร์ จะสั่งให้หยุดเกมและมีการเรียกหน่วยแพทย์มาดูอาการและต้องปฏิบัติการช่วยชีวิตเป็นการเร่งด่วนด้วยการทำ CPR สร้างความตกใจให้แก่แฟนฟุตบอลทั่วโลกที่ชมการแข่งขันผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ผู้คนสวดมนต์ภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครอง

 

โชคดีสำหรับอีริกเซนที่แพทย์สามารถช่วยชีวิตของเขากลับมาได้ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาล และตามรายงานข่าวล่าสุดอาการคงที่ เจ้าตัวได้สติ สื่อสาร และมีกำลังใจที่ดี และมีข่าวว่าเขาเป็นผู้ที่ขอให้เพื่อนกลับไปทำหน้าที่ในสนามต่อผ่านการคุยทาง FaceTime แม้ว่าสภาพจิตใจของทุกคนจะไม่พร้อมนักก็ตาม

 

การรอดชีวิตครั้งนี้ของอีริกเซนเกิดขึ้นได้อย่างไร THE STANDARD ขอสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเปิดเผยเหล่าฮีโร่ที่ช่วยชีวิตให้ทุกคนได้รับรู้

 

ซิมง เคียร์ กัปตันทีมผู้เป็นมากกว่าแค่กัปตัน

  • ก่อนที่ คริสเตียน อีริกเซน จะหมดสติไปเป็นจังหวะที่เขาพยายามจะเข้าไปรับลูกทุ่มจากเพื่อนที่ริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งกองกลางจอมเทคนิคเซถลาก่อนจะล้มลงไปที่พื้นสนามหญ้า ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนนักเตะและแฟนฟุตบอลที่อยู่ริมขอบสนาม
  • หนึ่งในคนที่รีบเข้ามาดูเหตุการณ์ทันทีคือ ซิมง เคียร์ กองหลังกัปตันทีมที่รุดมาถึงตัวของอีริกเซน และตัดสินใจได้อย่างถูกต้องในการที่ไม่ให้มีอะไรไปขวางทางเดินหายใจของอีริกเซน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
  • จากนั้นเคียร์เป็นหนึ่งในคนที่ส่งสัญญาณให้ทีมแพทย์รีบเข้ามาดูอาการเป็นการเร่งด่วนที่สุด เพราะหากล่าช้าแค่เพียงนิดเดียวความสูญเสียอาจเกิดขึ้น
  • เมื่อทีมแพทย์มาถึงเคียร์ได้เดินไปช่วยกันกับ แคสเปอร์ ชไมเคิล ในการปลอบขวัญภรรยาของอีริกเซนที่ตกใจ
  • ก่อนที่จะบอกให้เพื่อนร่วมทีมมายืนเป็นโล่มนุษย์เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของอีริกเซน ในระหว่างที่แพทย์กำลังทำการช่วยชีวิตจากสายตาของแฟนฟุตบอล 15,200 คนในสนามและอีกหลายล้านคนที่ชมอยู่ทางโทรทัศน์
  • ในขณะที่ผู้เล่นหลายคนยืนหันหน้าออก บางคนร้องไห้ แต่เคียร์เป็นคนที่หันหน้ามาดูอาการของเพื่อนอยู่ตลอดเวลา

 

ทีมแพทย์ผู้สร้างปาฏิหาริย์แห่งโคเปนเฮเกน

  • ขณะที่เคียร์และเพื่อนนักเตะทีมชาติเดนมาร์กรวมถึงผู้ตัดสิน แอนโทนีย์ เทย์เลอร์ ที่สั่งหยุดเกมทันทีภายในระยะเวลาแค่ 5 วินาที ซึ่งถือเป็นการทำเท่าที่จะทำได้แล้ว ที่เหลือจึงเป็นหน้าที่ของทีมแพทย์
  • สำนักข่าว BBC เปิดเผยความเห็นจากศาสตราจารย์ซานเจย์ ชาร์มา แพทย์โรคหัวใจการกีฬา (Sports Cardiologist) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจในสมาคมฟุตบอลอังกฤษว่าสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตของอีริกเซนได้คือความเร็วและการให้การรักษาอย่างทันท่วงที
  • ขณะที่ ดร.มาร์ติน โบเซน แพทย์ประจำทีมชาติเดนมาร์กเปิดเผยรายละเอียดเบื้องลึกเหตุการณ์ในระหว่างการแถลงหลังจบเกม โดยยืนยันว่าอีริกเซน ‘ไม่ได้สติ’
  • ดร.โบเซนเล่าถึงเหตุการณ์ว่า “ตอนที่ผมไปถึงข้างตัวเขา เขายังคงหายใจอยู่ผมรู้สึกได้ถึงชีพจรแต่มันก็เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน และเราต้องเริ่มทำ CPR กับเขา ด้วยความช่วยเหลือที่รวดเร็วจากทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เหลือที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เราทำในสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำและสามารถพาคริสเตียนกลับมาได้ เขาพูดกับผมก่อนที่เขาจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล”

 

‘ทีมอีริกเซน’ แฟนบอลสองชาติที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

  • ในช่วงที่อีริกเซนหมดสติและกำลังรับการรักษาอยู่ในระหว่างนาทีชีวิต แฟนฟุตบอลทั้งสนามเงียบกริบ ทุกคนต่างกังวลกับชีวิตของนักฟุตบอลผู้โชคร้าย หลายคนร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวในความสูญเสีย
  • แต่เมื่ออีริกเซนกำลังถูกลำเลียงออกจากสนามนำตัวส่งโรงพยาบาล แฟนบอลทุกคนต่างร้องตะโกนเรียกชื่อของเขาเพื่อเป็นการให้กำลังใจ โดยที่มีแฟนฟุตบอลฟินแลนด์โยนธงชาติลงมาให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้คลุมอีริกเซนเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของเขาโดยไม่สนใจคำว่าคู่แข่งอีกแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่ทุกคนต้องการคือการเห็นเขาปลอดภัย
  • ในระหว่างที่อีริกเซนได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แฟนฟุตบอลยังคงอยู่ในสนามเพื่อรอฟังข่าวดีโดยไม่ยอมถอดใจ ในระหว่างที่รอแฟนบอลฟินแลนด์ได้ร้องตะโกน ‘คริสเตียน’ และแฟนเดนมาร์กได้ตะโกนกลับ ‘อีริกเซน’ เป็นการปลอบประโลมให้กำลังใจกันและกัน
  • เมื่อทราบข่าวดีว่าอีริกเซนปลอดภัยทุกคนร่วมยินดีไปกับข่าวนี้ หลายคนหลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมา และลุกขึ้นยืนปรบมือให้กำลังใจนักฟุตบอลทั้งสองทีมที่กลับมาลงสนามอีกครั้ง

 

เพื่อนนักเตะที่กลับมาทำหน้าที่แม้ว่าหัวใจจะไม่ไหว

หลังจากที่ทุกคนได้ทราบข่าวดีว่าอีริกเซนปลอดภัยแล้วก็รู้สึกโล่งใจ แต่หน้าที่ของทีมชาติเดนมาร์กยังไม่จบเมื่อต้องตัดสินใจระหว่างการกลับไปลงแข่งต่อหรือจะแข่งขันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ซึ่ง แคสเปอร์ ฮูลมานด์ โค้ชของทีมเปิดเผยว่า นักเตะไม่คิดว่าการกลับไปโดยที่อาจจะยังหลอนและนอนไม่หลับแล้วต้องกลับมาแข่งขันใหม่ในวันต่อมาเป็นทางเลือกที่ดีนัก ดังนั้นทางที่ดีกว่าคือการกลับไปแข่งต่อและให้เกมนี้ผ่านไป

 

“เราทุกคนต่างได้รับการเตือนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือความสัมพันธ์ที่มีค่ากับคนที่เราใกล้ชิด ไม่ว่าจะครอบครัวหรือเพื่อน”

 

“ผมไม่อาจภูมิใจในคนที่ดูแลห่วงใยคนอื่นได้มากกว่านี้อีกแล้ว เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนที่พวกเรารักที่สุด สิ่งที่เพื่อนนักเตะคนอื่นพูดในห้องแต่งตัวในการตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นจนกว่าจะได้รู้ว่าคริสเตียนได้สติและโอเค

.
“ไม่มีใครสามารถจะลงเล่นได้ด้วยความรู้สึกนี้ แต่เราก็พยายามแล้วที่จะคว้าชัยชนะ ลำพังแค่การกลับไปลงเล่นต่อและพยายามในช่วงครึ่งหลังก็เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อแล้ว ให้พูดตรงๆ คือมีผู้เล่นหลายคนที่หมดแรงทั้งกายและใจไปแล้ว ทุกคนเป็นห่วงและภาวนาให้คริสเตียนและครอบครัวของเขา เขาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งแต่เขาเป็นคนที่ดีกว่านั้นอีก

 

“มีผู้เล่นที่สภาพจิตใจอ่อนล้าถึงที่สุด เพราะนี่เป็นประสบการณ์ที่น่ากลัว เราได้คุยกันในทีมว่าหากใครไม่พร้อมจะเล่นก็สามารถบอกได้เลยไม่เป็นอะไร เพราะบางคนก็ไม่พร้อมจะเล่น แต่บางคนก็พร้อมจะเล่น เราพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ไม่มีใครสามารถจะเล่นเกมฟุตบอลได้ในระดับนี้ มันไม่ใช่เรื่องปกติที่จะต้องแข่งขันต่อในขณะเพื่อนคนหนึ่งของเรากำลังเจ็บป่วยจากโรคหัวใจ ผมเองก็จินตนาการความรู้สึกในการลงไปเล่นเกมแบบนี้ไม่ถูก เราจะเสนอการเยียวยาให้และมีคนที่พร้อมจะช่วยพวกเรา”

 

แม้ว่าสุดท้ายแล้วเดนมาร์กจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่ในเกมชีวิตอีริกเซนและพวกเขาชนะ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising