จากกรณีของ เซี่ยเสี่ยวเจิ้น หญิงชราเชื้อสายจีนในสหรัฐฯ วัย 75 ปี ที่กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก หลังปรากฏคลิปวิดีโอที่เธอถูกชายไม่รู้จักต่อยเข้าที่ใบหน้าระหว่างยืนรอข้ามถนนในซานฟรานซิสโกจนทำให้ตาบวมช้ำและมีเลือดออก ก่อนที่เธอจะตอบโต้ด้วยการหยิบท่อนไม้ฟาดใส่ชายคนนั้นจนน่วม ซึ่งสาเหตุเชื่อว่ามีแรงจูงใจจากความเกลียดชังชาวเอเชีย
ภายหลังเกิดเหตุ หลานชายของเธอประกาศระดมเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อขอความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลคุณยายทั้งทางกายและใจ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า คุณยายเซี่ยตัดสินใจนำเงินบริจาคทั้งหมดที่ตอนนี้ทะลุเป้า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐไปแตะ 921,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 28.5 ล้านบาท มอบให้กับชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย เพื่อต่อสู้กับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
คุณยายเซี่ยยืนยันการตัดสินใจโดยบอกว่า “ประเด็นปัญหานี้ใหญ่กว่าอาการบาดเจ็บของเธอ” และ “เราต้องไม่ยอมแพ้ต่อการเหยียดเชื้อชาติและต้องสู้จนตัวตายหากจำเป็น”
จอห์น เฉิน หลานชายผู้เปิดระดมทุน เปิดเผยอาการล่าสุดของคุณยาย พบว่าดวงตานั้นมีอาการบวมลดลงและเปิดตาได้แล้ว ขณะที่คุณยายมีกำลังใจดีขึ้นและย้ำต่อเขาหลายครั้งเรื่องการนำเงินบริจาคมอบให้ชุมชนชาวเอเชียในสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติ พร้อมยืนยันว่าครอบครัวของเขาสนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าว
สำหรับชายที่ทำร้ายคุณยายเซี่ยชื่อว่า สตีฟ เจนกินส์ วัย 39 ปี ซึ่งตำรวจพบว่าในวันเดียวกันนั้นเขายังทำร้าย ง็อก ฝ่าม ชายชราเชื้อสายเวียดนาม วัย 83 ปี ที่กำลังซื้อของในร้านสะดวกซื้อบริเวณใกล้เคียง จนทำให้ใบหน้าบวมแดง จมูกร้าวและมีเลือดออก ซึ่งศูนย์เยาวชนชุมชนแห่งซานฟรานซิสโก (CYCSF) ได้ประกาศระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยค่ารักษาพยาบาลผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เช่นกัน โดยได้เงินบริจาคแล้วมากกว่า 283,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.7 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: