ราคาหุ้นของบรรดาบริษัทผู้ผลิตของเล่น ผ้าอ้อมเด็ก และอาหารสำหรับเด็กทารกในตลาดจีนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้อานิสงส์จากนโยบายลูกคนที่ 3 ของรัฐบาลจีน ทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นของบรรดาบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับเด็ก เนื่องจากคาดหวังว่าบริษัทเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากมาตรการล่าสุดของรัฐบาลจีน
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งจะออกมาแสดงความเห็นว่า การประกาศอนุญาตให้คู่สามีภรรยาชาวจีนมีลูกเพิ่มขึ้นได้จาก 2 คน เป็น 3 คน ของรัฐบาลจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อาจจะไม่ส่งผลกระตุ้นอัตราการเกิดที่ลดต่ำลงของประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สำหรับในมุมมองของนักวิเคราะห์หุ้น ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก็ทำให้บริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็กเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุน
ทั้งนี้ หุ้นของ Goldlok Holdings ผู้ผลิตของเล่นในเมืองกวางตุ้ง พุ่งขึ้นถึง 10% ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทผู้ผลิตของเล่นอีก 2 แห่ง คือ Jinfa Labi Maternity และ Baby Articles
นอกจากหุ้นของเล่นแล้ว หุ้นของผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น นมผง อุปกรณ์ดูแลเด็กทารก อาหารเสริม และเสื้อผ้า ต่างขยับปรับขึ้นทั่วหน้าเช่นกัน โดยบรรดาโบรกเกอร์ยังคงแนะนำให้นักลงทุนรายย่อยปรับพอร์ต หันมาลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ขณะที่นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งเตือนว่า ราคาหุ้นบริษัทเหล่านี้เป็นผลพวงจากการเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดเท่านั้น
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า บรรดาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลายแห่งได้รับคำถามจากนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับนโยบายครั้งนี้ที่มีต่อตลาด ซึ่งรวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถเกี่ยวข้าวอย่าง Thinker Agricultural Machinery ที่ตอบว่า แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับนโยบายลูกคนที่ 3 โดยตรง แต่ในระยะยาว จำนวนประชากรที่มากขึ้น ย่อมทำให้ปริมาณการบริโภคและการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
กระนั้น จำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่ออยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าคู่รักสามีภรรยาทั้งหลายยินยอมพร้อมใจที่จะมีลูกคนที่ 3 หรือไม่
ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับความกังวลของผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า ปัญหาอัตราการเกิดต่ำของจีนในปัจจุบันเป็นผลพวงจากการที่พ่อแม่ชาวจีนส่วนใหญ่ รวมถึงบรรดาคู่รักหนุ่มสาว ไม่ต้องการมีลูก เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กซึ่งค่อนข้างแพงได้
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น
อ้างอิง:
