เพราะเราเชื่ออยู่เสมอว่า ‘อาหารสุขภาพไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ’ และหลายครั้งที่ร้านอาหารสมัยนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ช่วยฉีกกรอบความคิดแบบเดิมๆ ของคนส่วนใหญ่ที่เชื่อว่า อาหารสุขภาพต้องไม่อร่อย มีแต่ผักหญ้าหรืออาหารนก (ก็พวกธัญพืชหรือถั่วต่างๆ) กินแล้วไม่อิ่ม แถมยังราคาแพง ทั้งที่ในความเป็นจริง อาหารเพื่อสุขภาพในกรุงเทพฯ มีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกกินอะไรมากกว่า ล่าสุดมีร้านอาหารเปิดใหม่ที่เข้ามาอยู่ในลิสต์อาหารดีไม่น่าเบื่อได้อย่างภาคภูมิ เพราะเลือกเฟ้นแต่วัตถุดิบปลอดสารพิษ เป็นมิตรกับผู้บริโภค มีผักให้กินเยอะๆ แต่บอกก่อนว่าร้านนี้ไม่คลีน ดังนั้นสายคลีนจัดๆ อาจต้องระวัง     

 

ที่ร้านมีเครื่องดื่ม Cold Pressed จำหน่ายด้วย

 

เรากำลังพูดถึง ‘ฌานา’ ร้านอาหารที่เชื่อมต่อทุกคนเข้าสู่วิถีชีวิตธรรมชาติได้อย่างไม่ขัดเขิน สร้างห่วงโซ่อาหารแห่งความสุขที่ยั่งยืน เพราะฌานาทำงานร่วมกับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลและสัตว์น้ำจืดจากเครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด กรีนพอร์ค ที่หมูเลี้ยงตามธรรมชาติปลอดสารพิษ ผลิตภัณฑ์ไข่ขบถที่เลี้ยงไก่แบบปล่อยตามธรรมชาติ บ้านรักษ์ดินที่นำเสนออาหารประเภทเส้น แป้ง ข้าว รวมถึงผักปลอดสารพิษจากไร่บุญฉลวยที่ทำเกษตรแบบนวธรรมชาติ โดยยึดคอนเซปต์ว่า ‘วัตถุดิบจากฟาร์มเพื่อน’ เราจึงมั่นใจได้เรื่องความสะอาด ปลอดสารพิษ  

 

Farm Station ผักสด ปลอดสารพิษ ตักได้ไม่จำกัด

 

แน่นอนแค่วัตถุดิบดียังไม่เพียงพอ เพราะฌานาได้นำวัตถุดิบเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารที่เราเจอในชีวิตประจำวัน และกินได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อ ไม่ได้เป็นเมนูกินยากที่พิสดารประหลาดล้ำ เมนูชื่อฝรั่ง หรือเมนูที่ต้องนานๆ กินทีถึงจะอร่อย เมนูเด่นของทางร้านได้แก่ Farm Pot หรือหม้อไฟที่ยกเอาของดีจากฟาร์มทุกแห่งมารวมไว้ในหม้อเดียว ถือเป็นจานที่ต้องสั่งทุกโต๊ะ มาพร้อมน้ำซุปกลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพรที่ผ่านการบ่มเพาะมากว่า 20 ปี จนได้เป็นน้ำซุปที่มีเอกลักษณ์ เลือกได้ว่าจะสั่งเป็นเซตสามเกลอหมูอารมณ์ดี สามสหายโคขุนร่าเริง หรือแก๊งประมงรักษ์โลก น้ำจิ้มมีให้เลือก 5 รสชาติ ส่วนผักสามารถตักทานได้ไม่อั้นที่ Farm Station โดยมีของดีเป็นจิงจูฉ่าย มะระขี้นก และปวยเล้ง ที่ล้วนดีต่อสุขภาพ

 

แก๊งประมงรักษ์โลก ที่ใช้แต่ของดีมาทำ

 

แต่หากไม่อยากกินหม้อไฟ เมนูอาหารจานเดียวก็น่าสนใจ เช่น ส้มตำข้าวโพดทับทิมสยามไข่เค็ม, ข้าวกะเพราเนื้อออสเตรเลีย, ข้าวอินทรีย์คลุกปลาทูแม่กลอง, หมูม้วนอารมณ์ดีไส้แอปเปิ้ลผักโขม, กุ้งแม่น้ำอินทรีย์ย่างถ่าน และลาบไก่ผักเคล ซึ่งหลายจานที่ได้ลิ้มรสมาแล้ว ต้องบอกว่ารสชาติจัดจ้านถึงเครื่องจริงๆ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่ารสชาติจะจืดชืด จำเจ ไร้การปรุงแต่ง อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดเวลามาที่นี่ ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์จาก Aromatic Farm ซึ่งเป็นสวนมะพร้าวที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวน้ำหอมอร่อยที่สุดในโลก เพราะทุกลูกมีความหวานอ่อนที่รับประกัน ไม่แฝงรสเปรี้ยวให้เสียอารมณ์เหมือนตอนไปกินที่อื่น  

 

(ซ้าย) ส้มตำข้าวโพดทับทิมสยามไข่เค็ม (ขวา) กุ้งแม่น้ำอินทรีย์ย่างถ่าน

 

ข้าวอินทรีย์คลุกปลาทูแม่กลอง

 

(ซ้าย) ลาบไก่ผักเคล (ขวา) ข้าวกะเพราเนื้อออสเตรเลีย

 

จะเห็นได้ว่า เมนูอาหารของร้านฌานามีหน้าตาที่แทบไม่ต่างจากร้านอื่นๆ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบ และเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มเกษตรกรที่ตั้งใจผลิตของดีๆ ให้ชาวไทยได้กินกัน รวมถึงสุขภาพของคนไทย ที่เราสามารถเอร็ดอร่อยกับเมนูอาหารจานโปรดได้ โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าอาหารจานนั้นๆ จะกลับมาทำร้ายเราทีหลังหรือไม่

 

Photo: ฌานา

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์