วันนี้ (13 มีนาคม) ชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มารับการยื่นญัตติด้วยตัวเอง
ชัยธวัชกล่าวว่า วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 5 พรรคได้ยื่นญัตติขออภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แก่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเนื้อหาของญัตติมีดังนี้
“คณะมนตรีภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่มิได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
“นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง การดำเนินการของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะการแก้ปัญหาหนี้สินในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเห็นต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ล้วนขาดยุทธศาสตร์และการปฏิบัติที่ตรงเป้าหมาย
“นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือเกิดการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรม กลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาคและเท่าเทียมทางกฎหมาย และการไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน มีความผิดพลาด ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ การดำเนินนโยบายต่างประเทศยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้
“หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรม และไร้วุฒิภาวะต่อไป จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตามที่พี่น้องประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
“จากสถานการณ์ที่กล่าวถึงข้างต้น จึงจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย จะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการดำเนินนโยบายและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน”
ขณะที่วันมูหะมัดนอร์ระบุว่า ช่วงเวลาของการเปิดอภิปรายนั้น พรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และตัวแทนรัฐบาล จะนัดหมายกำหนดวันที่ที่ชัดเจนและเวลาที่จะใช้อภิปรายอีกครั้งภายในสมัยประชุมนี้ ซึ่งจะหมดสมัยประชุมในวันที่ 9 เมษายน
สำหรับตัวแทนพรรคฝ่ายค้านที่มาร่วมแถลงข่าวในวันนี้ประกอบไปด้วย ชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, กฤดิทัช แสงธนโยธิน สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคใหม่, ชัชวาล แพทยาไทย สส. ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย, กัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม และ ปรีดา บุญเพลิง สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน