×

ซีอีโอ หุ้นใหญ่ ‘ลีโอ โกลบอล’ ขาย Big Lot สัดส่วน 2.81% พ่วงขาย LEO-W1 อีก 1 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 118.98 ล้านบาท ให้กองทุนสิงคโปร์

17.01.2023
  • LOADING...

เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ซีอีโอ-ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ ขายหุ้น ขาย Big Lot สัดส่วน 2.81% พ่วงขาย LEO-W1 อีก 1 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 118.98 ล้านบาท ให้กองทุน Capital Asia Investments จากสิงคโปร์

  

เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ หรือ LEO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ได้มีการทำรายการขายหุ้น LEO ที่เกิดขึ้นผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ บนกระดานใหญ่ (Big Lot) จำนวน 9 ล้านหุ้น สัดส่วน 2.81% ในราคาหุ้นละ 13.10 บาท กับ LEO-W1 จำนวน 1 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 1.08 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 118.98 ล้านบาท  

 

สำหรับการขายหุ้นบิ๊กล็อตในครั้งนี้ เป็นการทำรายการเข้าซื้อหุ้นจากกองทุน Capital Asia Investments ของสิงคโปร์ ที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ LEO หลังจากได้เข้ามาพูดคุยกับทางบริษัทมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้เห็นแผนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งในส่วนของ Freight และ Non-Freight ของบริษัท 

 

โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการขยายธุรกิจใหม่ๆ ในส่วนของ Logistics Center, Cold Chain, Self Storage และลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ที่มี Gross Profit Margin สูง รวมถึงยังมีแผนการ M&A อีกหลายๆ โครงการทั้งในและต่างประเทศที่เห็นภาพชัดเจน และสามารถรับรู้รายได้ภายในประมาณไตรมาสที่ 3/66 อีกทั้งการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น Non-Logistics เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตเป็น Growth Stock ในทุกมิติ 

 

“ก่อนที่กองทุนดังกล่าวจะเข้ามาซื้อหุ้น LEO ทางกองทุนได้เข้ามาพูดคุย รวมถึงศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการเติบโตก่อนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท และมีความมั่นใจว่า บริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจและประสบความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง และมองเห็นถึงช่องทางการเติบโตที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรได้อย่างแน่นอน” 

 

ทั้งนี้ การขายหุ้นบิ๊กล็อตในครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหาร และการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด “จริงๆ แล้วกองทุนดังกล่าวมีความต้องการซื้อหุ้นของบริษัทมากกว่า 9 ล้านหุ้น แต่บริษัทไม่สามารถจัดสรรให้ได้ จึงได้เสนอให้ทางกองทุนซื้อวอร์แรนต์ LEO-W1 แทน และไปใช้สิทธิ์ในการแปลงสภาพแทนในอนาคต ตอกย้ำถึงความมั่นใจของกองทุนดังกล่าวต่อพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยจำนวนหุ้นที่ทางกองทุนจากประเทศสิงคโปร์ซื้อไปนี้คิดเป็นสัดส่วน 2.81% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท 

 

สำหรับภาพรวมแนวโน้มการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทั้งกลุ่มโลจิสติกส์ที่เป็น Freight และ Non- Freight และ Non Logistics เพื่อให้สมกับการเป็นหุ้น Blue Chip Stock ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน ทั้งนี้ ทางบริษัทจะมีการประกาศแผนธุรกิจปี 2566 รวมถึงกลยุทธ์และเป้าหมายการเติบโตของ LEO ใน 3-5 ปีข้างหน้าอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนมกราคม 2566


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising