จากการสำรวจของ Official Monetary and Financial Institution Forum (OMFIF) ใน 18 สถาบัน พบว่า 35% ของธนาคารกลางทั่วโลกเล็งออก CBDC (Central Bank Digital Currency) ภายในเร็วๆ นี้
จากปัจจัยด้านตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่อยู่ในสถานการณ์คลุกฝุ่น ทั้งจากการล้มละลายของ Celsius, เครือข่ายบล็อกเชน Terra รวมไปถึง FTX อดีตแพลตฟอร์มเทรดคริปโตเบอร์ 2 ของโลกที่ล้มละลายไปในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ทำให้ 2 ใน 3 ของธนาคารกลางเหล่านั้นมองว่าการออกเหรียญ CBDC ควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 10 ปี และไม่มีธนาคารกลางใดมองว่าควรออกหลังจาก 10 ปีไปแล้ว
นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Atlantic Council ยังพบว่า ในปี 2022 ธนาคารกลางกว่า 105 แห่งทั่วโลกต่างศึกษาความเป็นไปไดัของ CBDC ซึ่งเป็นตัวแทนของ 95% ของ GDP ทั่วโลก จากเดิมที่มีเพียง 35 ประเทศทั่วโลกที่สนใจใน CBDC ในช่วงปี 2020
จากรายงานเผยว่า ในขณะนี้บาฮามาส ไนจีเรีย ทางตะวันออกของแคริบเบียน และจาเมกา ได้ออก CBDC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีประเทศจีนที่มีความล้ำหน้าที่สุดในการทดลองใช้ CBDC ในบรรดาทุกประเทศ
โดยเหตุผลหลักของการที่ธนาคารกลางต่างต้องการออก CBDC นั้น ก็เพราะธนาคารกลางทั่วโลกต้องการรักษาสถานภาพของธนาคารกลางไว้ และเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศเพิ่มขึ้นไป (Financial Inclusion) และจากปัจจัยการล้มละลายของ FTX ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกมองว่า CBDC จะเป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหาของคริปโตได้
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า CBDC จะไม่มีความเสี่ยง โดย CBDC สามารถทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านการเงินและอัตราการแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ทั้งยังต้องมั่นใจได้ว่าการมาของ CBDC จะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการการเงินเพิ่มขึ้นจริง ซึ่งรวมไปถึงบุคคลที่เข้าไม่ถึงดิจิทัลเทคโนโลยีด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
- บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
- แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท
อ้างอิง: