×

ไม่ต้องเป็นวีไอพีก็ได้ใช้! ‘เซ็นทรัล’ และ ‘โรบินสัน’ เพิ่มลูกเล่น Personal Shopper ดึงดูดลูกค้า รับมือโควิด-19 ระลอกใหม่

15.01.2021
  • LOADING...
ไม่ต้องเป็นวีไอพีก็ได้ใช้! ‘เซ็นทรัล’ และ ‘โรบินสัน’ เพิ่มลูกเล่น Personal Shopper ดึงดูดลูกค้า รับมือโควิด-19 ระลอกใหม่

การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ของธุรกิจต่างๆ ทำให้นอกจากงัดมาตรการเดิมที่เคยใช้เมื่อครั้งก่อนออกมาใช้แล้ว จำเป็นต้องหามาตรการหรือลูกเล่นการตลาดใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในวันที่เศรษฐกิขยังมีความผันผวนอยู่สูง จนหลายคนต้องรัดเข็มขัด

 

นิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า โควิด-19 ระลอกใหม่ถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับธุรกิจ แต่ในอีกด้านหนึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใกล้ชิดลูกค้า ผ่านออปชันต่างๆ ที่นำเสนอ

 

ดังนั้นนอกจากมาตรการเข้มด้านสุขอนามัย, CENTRAL APP ที่เสมือนยกห้างเซ็นทรัลมาไว้บนมือถือ, ช่องทางการช้อปให้เลือกหลายรูปแบบตามความถนัดของลูกค้า ทั้งช้อปผ่านเว็บไซต์ Chat & Shop Call & Shop Chat & Shop Facebook Live และ Facebook Inbox ในครั้งนี้ ทั้ง ‘ห้างเซ็นทรัล’ และ ‘ห้างโรบินสัน’ ได้เพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ นั่นคือ Personal Shopper ผู้ช่วยช้อปส่วนตัว

 

ปกติแล้ว Personal Shopper จะมีไว้บริการสำหรับลูกค้าวีไอพี แต่รอบนี้ได้ตัดสินใจนำมาบริการให้กับลูกค้าทุกคน เพียงโทรไปใช้บริการผ่าน 1425 ซึ่งมีพนักงานที่เทรนด์ไว้กว่า 1,000 คน และสามารถเพิ่มได้อีกหากได้รับการตอบที่ดี

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจนว่าการระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่จะกระทบต่อธุรกิจของทั้งห้างเซ็นทรัลและโรบินสันมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ แม้จะไม่มีการตื่นตระหนกเท่ากับครั้งแรก หากตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ดร.ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงาน บริหารสาขา และซัพพลายเชน บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เริ่มเห็นทราฟฟิกลูกค้าที่เดินเข้ามาลดน้อยลงตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา

 

“แม้สาขาที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงจะแทบไม่ได้รับผลกระทบในแง่ของลูกค้าที่เดินเข้าไปช้อปปิ้งเลยก็ตาม แต่สำหรับสาขาที่อยู่ในโซนสีแดงพบว่า บางวันตกลง 10-20% แต่หากมีอยู่ในรายชื่อไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ วันถัดไปทราฟฟิกจะหายไป 60-70% ดังนั้นเมื่อเฉลี่ยกันแล้วพบว่าทราฟฟิกลดลงไปประมาณ 30-50% ด้วยกัน” 

 

ขณะเดียวกันถึงลูกค้าจะเดินเข้าห้างน้อยลง แต่กลับไปเพิ่มยอดขายในส่วนของออนไลน์มากขึ้น โดยนอกจากหน้ากากอนามัยที่ขายได้เป็นแสนชิ้น กลุ่มแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์ไอทีก็เป็นอีกกลุ่มที่มียอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยในปีที่ผ่านมา (ยอดขายระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2563) พบว่า ยอดขายในช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นประมาณ 12 เท่า หรือ 1,200%

 

ปัจจุบันใน CENTRAL APP มีสินค้าให้เลือกกว่า 6,000 แบรนด์ 200,000 SKU มีการวางแผนว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเพิ่มสินค้าจากโรบินสันเข้ามา และภายในเดือนมีนาคมจะมีการเพิ่มสินค้าจากซูเปอร์สปอร์ตและเพาเวอร์บายเข้าไปในแอปฯ ส่วนภายในเดือนมิถุนายน สินค้าที่อยู่ในเครือของเซ็นทรัลรีเทลทั้งหมดจะถูกเติมเข้าไปในแอปฯ

 

“ปัจจุบันเรายังไม่มีการเปลี่ยนแผนการลงทุน โดยบางส่วนจะทำให้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของออนไลน์ เราจะลงทุนเพื่อทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นิโคโลกล่าว 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising