×

ปกรณ์วุฒิ ชี้ ศักดิ์สยาม แจงไม่เคลียร์ แสดงหลักฐานขายหุ้น 120 ล้าน แต่ หจก. ยังเป็นหนี้ 69 ล้านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ทั้งที่หุ้นส่วนผู้จัดการเปลี่ยนมือ

โดย THE STANDARD TEAM
20.07.2022
  • LOADING...
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล

วันนี้ (20 กรกฎาคม) ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวตอบโต้ภายหลัง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องส่อทุจริตซุกหุ้น โดยให้นอมินีถือหุ้นกิจการแทน ว่าท่านรัฐมนตรีได้แสดงหลักฐานว่ามีการจ่ายเงินโอนหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) จริงๆ ในราคา 120 ล้านบาทโดยประมาณ เรื่องนี้ตนได้อภิปรายไปว่า หจก. ที่มีสินทรัพย์ มีรายได้มากขนาดนี้ การซื้อขายที่ 120 ล้านบาท หรือเป็นราคาทุนนั้น ดูไม่สมเหตุสมผล เพราะหลังจากที่ขายไปแล้วก็พบว่า หจก. นี้ก็กลับมาได้งานของกระทรวงคมนาคมที่ท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มูลค่าเป็น 1,000 ล้านบาท หากจะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะขายกิจการเท่าไร ตรงนี้ก็เคารพ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ แต่ส่วนที่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ ประชาชนคงจะตัดสินได้เอง ว่าการกระทำธุรกรรมครั้งนี้เป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่

 

ปกรณ์วุฒิกล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่ตนเองได้ทิ้งไว้ในการอภิปรายคือ ถ้ามีการโอนเงิน 120 ล้านบาท แล้วมันหายไปไหนจากบัญชีทรัพย์สินของท่าน เพราะการซื้อขายนั้น เกิดขึ้นประมาณ 16 เดือนก่อนที่จะมีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเท่านั้น และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ มีการโอนเงินค่าหุ้นงวดแรกก่อนที่จะโอนหุ้นจริงๆ ถึง 5 เดือน ซึ่งเป็นการซื้อขายที่แปลกมาก คือจ่ายเงินก่อน แต่ยังไม่มีการโอนหุ้นให้กัน ต้องเชื่อใจกันมากแน่ และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ หจก. แห่งนี้ ท่านรัฐมนตรีขายหรือโอนออกไปต้นปี 2561 ซึ่งถ้าย้อนไปดูปลายปี 2560 หจก. แห่งนี้เป็นเจ้าหนี้หุ้นส่วนผู้จัดการ 69 ล้านบาท คือหมายความว่าก่อนที่จะโอนหุ้นออก ศักดิ์สยามเป็นหนี้ห้างหุ้นส่วนแห่งนี้ 69 ล้านบาท แต่พอถึงสิ้นปี 2561 จำนวนหนี้ยังเขียนเหมือนเดิมว่า เป็นเจ้าหนี้หุ้นส่วนผู้จัดการอยู่ 69 ล้านบาท ทั้งที่หุ้นส่วนผู้จัดการเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ก็เลยสงสัยว่ามีการโอนหนี้ออกไปหรือเปล่าตอนที่มีการขายหุ้นกัน

 

“ผมแบ่งเป็น 3 กรณีคือ 1. ถ้าขาย 120 ล้านบาท ถ้าโอนหนี้ให้กับผู้จัดการคนใหม่ แปลว่าท่านได้กำไรจากการขายกิจการ 69 ล้าน ต้องยื่นภาษี แต่ท่านไม่ได้ยื่น 2. ถ้าท่านไม่ได้โอนหนี้ออกไป แปลว่าหนี้นี้เป็นหนี้สินส่วนตัวของท่าน ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งท่านก็ไม่ได้ยื่น 3. ถ้ามีการบอกว่าเอาเงินที่ขายหุ้นไปใช้หนี้ ตัวเลขมันแปลกมากที่สิ้นปี 2560 กับสิ้นปี 2561 ตัวเลขในงบการเงินแสดงฐานะของกิจการยังเป็น 69 ล้านบาทเท่าเดิม ซึ่งสุดท้ายแล้วผมเข้าใจว่าตัวเลขตัวนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และไม่มีการจ่ายหนี้อะไรกันเลย ไม่มีการโอนหนี้เลย และหนี้นี้ต้องเป็นของท่านที่ติดหนี้ หจก. อยู่ และท่านก็ไม่ได้แสดงในบัญชีทรัพย์สินด้วย ผมว่าเรื่องนี้ท่านไม่มีทางออกแล้ว สิ่งที่พูดมา หลักฐานที่อภิปรายไป หลักฐานงบการเงินทั้งหมด ค่อนข้างมัดตัวได้แน่น จากนี้ผมคิดว่าเตรียมพูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของพรรค และพรรคร่วมฝ่ายค้านที่อภิปรายเรื่องนี้ ยื่นเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อทำการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน การถือครองธุรกิจที่ใช้นิติกรรมอำพรางเพื่อเอาผิดต่อไป” ปกรณ์วุฒิกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising