×

CDC เผยอยู่ระหว่างศึกษาผลข้างเคียงจากวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 หวั่นเกิดอาการไม่พึงประสงค์ หลังคนแห่ฉีดหวังเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันโควิด

14.07.2021
  • LOADING...
CDC

ด็อกเตอร์เจย์ บัตเลอร์ (Jay Butler) รองผู้อำนวยการด้านโรคติดต่อ แห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) แสดงความเห็นเกี่ยวกับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน โดยยอมรับว่าขณะนี้ทาง CDC กำลังศึกษาว่าการฉีดเข็มกระตุ้นหลังได้รับวัคซีนครบโดสอาจมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์มากขึ้นหรือไม่ หลังพบในกลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนในสูตรที่ต้องฉีด 2 โดสว่า มีบางรายที่มีผลข้างเคียงรุนแรงขึ้นหลังฉีดเข็มที่ 2 แม้ว่าจำนวนผู้ที่มีอาการดังกล่าวจะยังมีสัดส่วนที่น้อยมากอยู่ก็ตาม

 

ขณะที่ทางด้าน ด็อกเตอร์แอนดรูว์ ปาเวีย (Andrew Pavia) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อในเด็กแห่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยยูทาห์ ในฐานะตัวแทนของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health-NIH) กล่าวเสริมว่า ณ เวลานี้ทางสถาบันกำลังเดินหน้าศึกษาวิจัยเพื่อประเมินความจำเป็นของวัคซีนกระตุ้น ตลอดจนแนวทางการผสมวัคซีนซึ่งจะมีส่วนช่วยในการบริการจัดการวัคซีนจากหลายผู้ผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งทาง NIH หวังว่าน่าจะได้รับคำตอบทั้งหมดภายในเร็ววันนี้

 

สำหรับความเห็นของสองผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระดับสูงของสหรัฐฯ ครั้งนี้มีขึ้น หลังเริ่มมีชาวอเมริกันบางส่วนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วแห่กันออกมาหาทางฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 โดยหวังว่าจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันป้องกันโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันหรือข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนก็ตาม

 

ขณะเดียวกัน ทางด้านด็อกเตอร์แอนโทนี เฟาชี ที่ปรึกษาอาวุโสด้านสาธารณสุขแห่งทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ยืนยันว่า ณ ปัจจุบันนี้ วัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ยังไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด โดยความเห็นของด็อกเตอร์เฟาชีมีขึ้นท่ามกลางกระแสคำถามมากมายถึงความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อต่อกรกับไวรัสโควิดที่กลายพันธุ์

 

นอกจากนี้ ทางด็อกเตอร์เฟาชียังใช้โอกาสนี้อธิบายเพิ่มเติมว่า การพูดคุยเรื่องเข็มกระตุ้น หรือ Booster ของบริษัทผู้ผลิตยากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง CDC หรือสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health-NIH) ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมความพร้อมสำหรับกรณีที่อาจจำเป็นต้องมีการใช้เข็มกระตุ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเข็มกระตุ้นเป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วทุกคนต้องไปฉีดเข็มกระตุ้นเพิ่มกัน โดยต้องไม่ลืมว่าขณะนี้ปริมาณวัคซีนยังมีไม่เพียงพอกับจำนวนประชากร

 

ยิ่งไปกว่านั้น ที่ปรึกษาอาวุโสด้านสุขภาพแห่งทำเนียบขาวยังย้ำว่า การหารือเกี่ยวกับเข็มกระตุ้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างแน่นอน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของด็อกเตอร์บัตเลอร์ และด็อกเตอร์ปาเวีย ที่ระบุว่าทีมนักวิทยาศาสตร์ยังไม่พบหลักฐานว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสมีระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงแต่อย่างใด และเห็นว่าความจำเป็นของเข็มกระตุ้นยังคงต้องมีการหารือและพิจารณาสถานการณ์ต่อไป

 

ในส่วนของการพบปะกันระหว่าง Pfizer ผู้ผลิตวัคซีนโควิดรายใหญ่ของสหรัฐฯ กับสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ด็อกเตอร์เฟาชีกล่าวชัดว่าเป็นการพบปะกันตามมารยาท (Courtesy Meeting) และคำถามที่ควรพูดคุยหารือกันอย่างจริงจังในตอนนี้ก็คือ วัคซีนที่ฉีดไปมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้นานแค่ไหน และป้องกันได้มากในระดับใด โดยสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญวิตกกังวลในเวลานี้ก็คือ กลุ่มเสี่ยงอย่างผู้ที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะบางคนในกลุ่มนี้ไม่ตอบสนองต่อการฉีดวัคซีน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising