ประธาน BYD ไม่หวั่นแม้ขาดทุนจากราคาหุ้นไปแล้ว 1.5 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว หลังนักลงทุนเทขายหุ้นเหตุกังวล Tesla จุดชนวนราคาอีกรอบ และยังกดดันไปถึงสองแบรนด์ใหญ่ XPENG, NIO แต่ไม่อาจสะเทือนตลาดรถยนต์ NEV จีน เมื่อเจ้าตลาดอย่าง ‘BYD’ ครองใจทั่วโลกจากยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้าสู่คันที่ 5 ล้านสำเร็จเป็นรายแรก ทุบสถิติการผลิตรถ 2 ล้านคันในเวลา 9 เดือน กลายเป็นแบรนด์ทรงพลังแข็งแกร่งและสร้างแรงกดดันอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
รายงานข่าวจาก Forbes ระบุว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา นักลงทุนเทขายหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของจีนทั่วทั้งกระดาน เนื่องจากกังวลว่า Tesla จะจุดชนวนสงครามราคาอีกครั้ง ส่งผลให้มูลค่าพอร์ตของ Wang Chuanfu ประธานและ CEO ของ BYD ลดลงมากถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นส่วนตัว 17.6% ใน BYD และทำให้หุ้นของเขาร่วงลง 8.7% นอกจากนี้ คู่แข่งในประเทศของ BYD ก็ถูกกดดันขายอย่างหนักจากความกังวลนี้เช่นกัน โดยหุ้น XPENG ที่มีมหาเศรษฐีอย่าง He Xiaopeng เป็นเจ้าของ ราคาลดลง 3% และ NIO ของ William Li ก็ลดลง 3.2% เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จีนขึ้นแท่นผู้ส่งออกยานยนต์ทุกประเภท ‘ใหญ่ที่สุดในโลก’ หลังกินส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั่วโลก 60% ของตลาด NEV
- ส่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจแบบฉบับ ‘จีนยุคใหม่’ ในวันที่เศรษฐกิจซึม ให้นายจ้างเพิ่มวันหยุดแบบมีค่าจ้าง ลดเงื่อนไขซื้อรถ EV หนุนจัดคอนเสิร์ต
- Toyota สุดฝืนกระแส EV ยอมปลดพนักงาน 1,000 คนในจีน หลังรัฐบาลกระตุ้นผู้บริโภค งัดสิทธิลดหย่อนภาษีซื้อรถยนต์ NEV จูงใจ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามูลค่าสุทธิของเขาจะลดลง แต่ปัจจุบัน Wang เป็นบุคคลที่ร่ำรวยถือว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 9 ของจีน ที่มีสินทรัพย์มูลค่า 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยส่วนหนึ่ง BYD ได้รับการสนับสนุนจาก Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ที่สร้างมหาเศรษฐีสองคนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของ Wang ได้แก่ Lu Xiangyang ที่มีมูลค่าสุทธิ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ และ Xia Zuoquan ที่มีมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์
Yale Zhang กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา Automotive Foresight กล่าวว่า การลดราคาน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายแต่ได้ผลสำหรับ Tesla ในการรักษาส่วนแบ่งตลาดในจีน และเพื่อทำกำไรที่มากขึ้นจากสงครามราคาเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ตามมาด้วยส่วนลดที่มากขึ้นในปีนี้ ทำให้รถยนต์รุ่น Model Y และรุ่น 3 ขายดีที่สุด หลังราคาขายปลีกน้อยกว่าราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 3
แต่เมื่อ Tesla ไม่อาจต้านทานผู้ผลิต EV ท้องถิ่นที่แข่งขันกันอย่างร้อนแรง ทำให้เห็นยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในจีนลดลงช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ BYD ยังเป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Dynasty และ Ocean
ล่าสุดเพื่อรักษาตลาดและแบรนด์เจ้าตลาด ประธาน BYD ได้ประกาศว่า “พร้อมทำลายตำนานเก่าและสร้างแบรนด์ระดับโลกใหม่ ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วสำหรับแบรนด์จีน”
NEV จีนกำลังกลายเป็นพลังเขย่าวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก
สำหรับ BYD กำลังเป็นบริษัทผู้นำผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ชั้นนำของจีน และสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประกาศเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่สามารถผลิตรถยนต์ขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้าครบ 5 ล้านคัน ซึ่งเป็นการรวมทั้ง Hybrid, PHEV, EV และ Hydrogen ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมีรุ่นยอดนิยมคือ Denza N7 และยังทุบสถิติการผลิตรถ 2 ล้านคันในเวลา 9 เดือน
ทำให้ปัจจุบันจีนได้กลายเป็นประเทศที่มีอิทธิพลด้านการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงเป็นเจ้าของเทคโนโลยีหลักๆ ที่สำคัญต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม
Cui Dongshu เลขาธิการ China Passenger Car Association กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมารถยนต์นั่งพลังงานใหม่ของจีนมีสัดส่วนร้อยละ 63 ของส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งพลังงานใหม่ของโลก ท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับโลกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด บวกกับความชาญฉลาด เครือข่าย การขับเคลื่อนนโยบาย NEV ของจีน โดยมี BYD เป็นเจ้าตลาด ที่กำลังกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกไปแล้วในขณะนี้
อ้างอิง:
- https://www.forbes.com/sites/ywang/2023/08/14/byds-chairman-hit-with-15-billion-wealth-loss-in-a-single-day-after-tesla-cuts-prices/?sh=767f4363237e
- https://www.reuters.com/business/autos-transportation/tesla-cuts-prices-china-some-model-y-versions-2023-08-14/
- https://english.news.cn/20230809/259d809375b64e2aac7a3d8f48c6b6df/c.html