Bud Light แบรนด์เบียร์ของบริษัทแม่อย่าง Anheuser-Busch InBev ได้เสียตำแหน่งแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมสูงสุดในตลาดของสหรัฐอเมริกา ให้กับ Modelo Especial จาก Constellation Brands หลังเจอกระแสต่อต้านหนักจากกลุ่มลูกค้าอนุรักษนิยม ที่รับไม่ได้กับการที่แบรนด์เลือกทำแคมเปญโฆษณาร่วมกับ ดีแลนด์ มัลเวย์นี อินฟลูเอ็นเซอร์หญิงข้ามเพศชื่อดัง
ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Bump Williams ระบุว่า หากเทียบเป็นรายปีแล้ว ยอดขายของ Bud Light และ Budweiser ร่วงลงถึง 24.6% และ 9.2% ตามลำดับ ในช่วง 4 สัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 มิถุนายน ขณะที่ยอดขายของ Modelo Especial พุ่งถึง 10.2%
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน Bud Light ได้ทำแคมเปญโฆษณาร่วมกับมัลเวย์นี เพื่อโปรโมตกิจกรรมที่มีชื่อว่า Easy Carry Contest ซึ่งจะมอบโอกาสให้ลูกค้าได้ลุ้นรับเงินรางวัลสูงถึง 15,000 ดอลลาร์ สำหรับการอัปโหลดวิดีโอที่พวกเขาจะต้องถือกระป๋องเบียร์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งมัลเวย์นีก็ได้ถ่ายคลิปตัวเองพูดคุยกับกล้องผ่าน Instagram เคียงข้างกับกระป๋องเบียร์แบรนด์ Bud Light เพื่อประกาศกิจกรรมดังกล่าว
แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นว่า ลูกค้ากลุ่มอนุรักษนิยมไม่พอใจอย่างหนักที่แบรนด์ใช้ทรานส์เจนเดอร์มาทำแคมเปญโฆษณา ก่อเกิดเป็นกระแสบอยคอต Bud Light ที่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในโลกโซเชียล บางคนได้อัดคลิปยิงกระป๋องเบียร์ บ้างก็เอารถมาเหยียบ หรือไม่ก็ด่าทอด้วยคำพูดที่รุนแรง
สถานการณ์ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นว่า แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป แต่กระแสต่อต้านชุมชนชาว LGBTQIA+ ในสหรัฐฯ ก็ยังคงร้อนแรงและไม่เปิดกว้างเท่าที่ควร โดยหลังจากกรณีของมัลเวย์นีแล้ว ก็ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่โดนกระแสต่อต้านจากลูกค้ากลุ่มอนุรักษนิยม เช่น ห้างค้าปลีก Target ของสหรัฐฯ ที่ต้องถอดสินค้าสนับสนุนความหลากหลายทางเพศที่นำมาจำหน่ายในช่วง Pride Month ออกจากหน้าร้าน หลังจากที่มีลูกค้าไม่พอใจอย่างหนักจนปะทะกับพนักงาน หรือมีการเขวี้ยงสินค้าเหล่านั้นลงกับพื้น จนทางห้างต้องเร่งเก็บสินค้าออก เพราะหวั่นเกรงว่าพนักงานจะไม่ปลอดภัยตามไปด้วย
แฟ้มภาพ: LisaCarter Via Shutterstock
อ้างอิง: