×
SCB Omnibus Fund 2024

ส่วนต่างบอนด์ยีลด์ 2 ปี และ 10 ปีสหรัฐฯ ติดลบหนักสุด ‘รอบ 40 ปี’ ส่งสัญญาณ Recession มาแน่?

20.11.2022
  • LOADING...
บอนด์ยีลด์

ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี และ 10 ปีของสหรัฐฯ ติดลบหนักสุดในรอบกว่า 40 ปี หลังเจ้าหน้าที่ Fed ส่งสัญญาณว่าอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปสู่กรอบ 5-7% เพื่อฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย ด้านนักเศรษฐศาสตร์แนะธุรกิจไทยเตรียมตั้งรับ

 

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี และ 10 ปีของสหรัฐฯ กลับด้าน (Invert) กันลึกขึ้น โดยส่วนต่าง (Spread) ติดลบถึง 70.5 Basis Points ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 พฤศจิกายน) ตามเวลาสหรัฐฯ ลึกสุดในรอบกว่า 40 ปี ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ติดลบราว 70 Basis Points ในวันที่ 18 พฤศจิกายน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


โดยในวันที่ 18 พฤศจิกายน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหรือบอนด์ยีลด์อายุ 2 ปีของสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 4.473% ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ 10 ปี เคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 3.784%

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย มองว่าปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ส่วนต่างของบอนด์ยีลด์ 2 ปี และ 10 ปีของสหรัฐฯ ติดลบอย่างหนักเมื่อคืนวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มาจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลายท่านได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอัตราการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจชะลอลง แต่จุดสูงสุดอาจสูงขึ้นไปถึงระดับ 5-7% ดังนั้นบอนด์ยีลด์อายุ 2 ปี จึงอ่อนไหวและพุ่งขึ้นทันที แม้ว่าบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ 10 ปีก็ขึ้นเหมือนกัน แต่ขึ้นไม่เยอะเท่า บอนด์ยีลด์อายุ 2 ปีจึงสูงกว่า 10 ปีค่อนข้างมาก

 

โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ ได้กล่าวในงานเสวนาว่า “แม้ว่า Fed ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75-4% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่ Fed มองว่าจะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ได้ โดยกรอบอัตราดอกเบี้ยที่มีประสิทธิภาพคือ 5-7%”

 

ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่ส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์อายุ 2 ปี และ 10 ปี ลดลงต่ำกว่าศูนย์ ‘อย่างมาก’ คือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1982 หลังจาก พอล โวลเกอร์ (Paul Volcker) ประธาน Fed ในตอนนั้น ผลักดันให้อัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate แตะ 15%

 

Inverted Yield Curve บ่งชี้ว่าอาจเกิดภาวะถดถอย

 

ด้าน ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kobsak Pootrakool ว่า Spread ระหว่างพันธบัตร 2 ปี และ 10 ปีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในสหรัฐฯ ในช่วงข้างหน้าที่ติดลบต่อเนื่องต่ำสุดของปีนี้ และที่สำคัญคือต่ำสุดในรอบ 40 กว่าปี สะท้อนความกังวลใจของตลาดเรื่องทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เราไม่ควรมองข้าม

 

“ภาพนี้ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยๆ ที่ดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าดอกเบี้ยระยะยาว ทั้งๆ ที่ทฤษฎีบอกว่ากู้ยาวต้องแพงกว่ากู้สั้น อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าภาพนี้เป็นเพียง Partially Inverted Yield Curve เท่านั้น หรือสั้นสูงกว่ายาวเพียงบางช่วง บางคู่ ขอให้อดใจอีกระยะ อีกไม่นานเกินรอ ต่อไป Completely Inverted Yield Curve ที่สมบูรณ์แบบตามทฤษฎีอาจจะปรากฏให้เราเห็น เพราะดอกเบี้ย Fed และดอกเบี้ยสั้น 1M จะไปไกลกว่านี้ ทำให้สั้นกว่ายาวทุกช่วงเวลา” ดร.กอบศักดิ์ระบุ

 

ดร.กอบศักดิ์ยังแนะว่า ธุรกิจไทยที่เชื่อมโยงกับต่างชาติ โดยเฉพาะส่งออก ก็ควรจะเตรียมการเช่นกัน เตรียมตั้งแต่วันนี้ เพราะถ้าเศรษฐกิจโลกอ่อนลงในช่วงข้างหน้า กำลังซื้อสินค้าต่างๆ ก็จะลดลง ก็จะกระทบมาถึงเรา ไม่นับกับการต้องสู้กับสินค้าจีน สินค้าประเทศอื่นๆ ที่ล้นจะมาแข่งกับเราในตลาดโลกที่แคบลง แต่ยังดีที่ภาคท่องเที่ยวของเรากำลังฟื้นต่อเนื่อง ดีวันดีคืน ซึ่งจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้กับเศรษฐกิจไทยไปได้บ้าง

 

Spread บอนด์ยีลด์คู่อื่นๆ ก็ติดลบแล้ว

 

ขณะที่พูนเปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่ใช่ส่วนต่างของบอนด์ยีลด์ 2 ปี และ 10 ปีของสหรัฐฯ เท่านั้นที่ติดลบ แต่คู่บอนด์ยีลด์ที่ Fed ใช้ประเมินภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี และ 3 เดือน ก็กลับด้าน (Invert) แล้วเช่นกัน

 

รวมไปถึง Near-Term Forward Spread ซึ่งเป็นประมาณการบอนด์ยีลด์อายุ 3 เดือนในอีก 18 เดือนข้างหน้า ลบด้วยบอนด์ยีลด์อายุ 3 เดือน ณ ปัจจุบัน ก็เคยกลับด้านให้เห็นบ้างแล้ว

 

ทั้งนี้ Near-Term Forward Spread จะสะท้อนว่าบอนด์ยีลด์อายุ 3 เดือนในช่วง 18 เดือนข้างหน้าจะอยู่ตรงไหนเมื่อเทียบกับปัจจุบัน หรือเป็นการบอกว่าดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นอย่างไรในอีก 18 เดือนข้างหน้าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน เนื่องจากบอนด์ยีลด์อายุ 3 เดือนมักวิ่งตามดอกเบี้ยนโยบาย

 

ดังนั้นเมื่อ Near-Term Forward Spread ติดลบ แปลว่า 18 เดือนข้างหน้าตลาดมองว่าจะมีการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้น ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจแย่

 

“ในอดีตที่ผ่านมา Fed จึงมีงานวิจัยที่บอกว่า Near-Term Forward Spread ติดลบมักจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายใน 1 ปี ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีกว่าคู่บอนด์ยีลด์ 2 ปี และ 10 ปี ที่มีการแทรกแซงของธนาคารกลางและมุมมองของผู้เล่นในตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องมากเกินไป” พูนกล่าว

 

ข่าวดี Spread บอนด์ยีลด์ติดลบไม่ได้บ่งชี้ถึงความรุนแรงของภาวะถดถอย

 

พูนยังตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ใช่ภาวะ Inverted Yield Curve ทุกครั้งจะนำไปสู่ภาวะถดถอย พร้อมทั้งอธิบายว่าสิ่งที่บอกได้จากภาวะ Inverted Yield Curve คือตลาดมองว่าดอกเบี้ยระยะสั้น 2 ปีมีแนวโน้มจะขึ้นไปได้อีกเยอะ แต่ 10 ปีอาจขึ้นได้ไม่เยอะมาก เนื่องจากภาพแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างหน้าอาจจะดูไม่ดี มีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการเมือง หลังจากผลการเลือกตั้งกลางเทอมออกมาว่าพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างและเดโมแครตครองสภาสูง ดังนั้นนโยบายการเมืองจึงดูเหมือนเริ่มมีปัญหา

 

“ลบมากหรือลบน้อยไม่ได้บ่งบอกถึงความรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะรอดจากภาวะถดถอยได้ และมีโอกาสจะไม่รอด โดยปัจจัยบวกคือตลาดแรงงานยังมีความแข็งแกร่งอยู่มาก แต่ก็มีข้อสังเกตว่าบริษัทเทคโนโลยีเริ่มมีการเลย์ออฟพนักงานมากขึ้นแล้ว” พูนกล่าว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising