การทำความรู้จักกับเหล่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในหลากหลายแง่มุม จะช่วยให้เราสามารถมองเห็นมายด์เซ็ตและวิถีการดำเนินชีวิตส่วนตัวของพวกเขา ที่สะท้อนถึงวิธีการคิด การแสดงออก และความสามารถในการบริหารชีวิตตนเอง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่น่าพอใจทั้งเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว ดังนั้น THE STANDARD POP จึงขอพาผู้อ่านไปสำรวจแนวคิด Work-Life Balance ของเหล่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่าในชีวิตจริงพวกเขามีวิธีการจัดการเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวให้สมดุลได้อย่างไร ด้วยแนวคิดไหนบ้าง ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักกับตัวตนอีกด้านของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่มากก็น้อย
1. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เบอร์ 8
“ชีวิตเหมือนโถแก้วที่ใส่หิน กรวด และทราย คุณก็ต้องเอาหินหรือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตใส่ลงไปก่อน เช่น สุขภาพ ครอบครัว งาน ส่วนทรายก็คือเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าเราไม่บาลานซ์ คือเอาทรายใส่ไปก่อน สุดท้ายสิ่งสำคัญในชีวิตก็ไม่มีที่ใส่ในขวดแก้ว”
2. พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง เบอร์ 6
“ผมจะแยกเป็น 3 ส่วน คืองาน เวลาพักผ่อนเป็นตัวของตัวเอง แล้วก็สิ่งที่สำคัญที่สุดส่วนที่ผมสบายอกสบายใจ ผมก็จะอยู่กับครอบครัว”
3. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เบอร์ 1
“ไม่ใช่แค่ไปพร่ำบ่นว่าคุณต้องสร้าง Work-Life Balance แต่เมืองไม่ได้ช่วยอำนวยความสะดวก และไม่ได้ช่วยเป็นกลไกในการแก้ปัญหาให้ทุกคนมี Work-Life Balance”
4. สกลธี ภัททิยกุล เบอร์ 3
“เวลาทำงานก็จะไม่จมไปกับมัน ไม่เครียด แล้วก็จะมีเพื่อนฝูงเยอะ เพราะฉะนั้นความเครียดจากการทำงาน หรือทำงานจนไม่ไหวจะไม่มี”
5. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบอร์ 4
“สำหรับคนที่ทำงานหนักๆ อย่างผม ยากสุดๆ นะครับ แต่ที่สุดเลยที่ผมต้องมีวินัยมากก็คือเรื่องอาหารการกิน แล้วก็เรื่องการออกกำลังกาย”
6. น.ต. ศิธา ทิวารี เบอร์ 11
“ให้เวลากับครอบครัวให้มาก ในขณะเดียวกันเราก็จะไม่เสียในเรื่องงาน การบาลานซ์ในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคน”
ภาพ: THE STANDARD TEAM