ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ สร้างท่าเรือชั่วคราวที่ชายฝั่งของฉนวนกาซา เพื่อเพิ่มการส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาทางทะเล ท่ามกลางความพยายามบรรเทาภาวะความอดอยากและขาดแคลนอาหารของประชาชนในกาซาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาล่วงเลยสู่เดือนที่ 5
ความช่วยเหลือทางทะเลดังกล่าวคาดว่าเทียบได้กับการเพิ่มปริมาณรถบรรทุกช่วยเหลือหลายร้อยคันต่อวัน โดยสหรัฐฯ คาดว่าอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการก่อสร้างท่าเรือชั่วคราว
ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่รอท่าทีของอิสราเอลก่อนที่จะดำเนินการ และจะไม่มีการใช้ท่าเรือชั่วคราวดังกล่าวส่งกำลังทหารสหรัฐฯ เข้าไปในกาซา แต่ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นฝ่ายสร้างถนนสำหรับการส่งต่อความช่วยเหลือทางทะเลสู่ทางบก
สำหรับแผนสร้างท่าเรือชั่วคราวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากในกาซาไม่มีท่าเรือน้ำลึก โดยท่าเรือชั่วคราวของสหรัฐฯ จะสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ที่บรรทุกอาหาร น้ำ ยารักษาโรค และเต็นท์พักแรมชั่วคราว ซึ่งการจัดส่งความช่วยเหลือจะใช้เส้นทางผ่านไซปรัส และจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยโดยอิสราเอล
ประชากรกาซาอดอยาก 1 ใน 4
ทั้งนี้ ไบเดนเตรียมประกาศแผนสร้างท่าเรือในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี ซึ่งคาดว่าจะมีการแสดงท่าทีต่อความพยายามในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสให้สำเร็จก่อนที่จะเริ่มต้นเดือนรอมฎอนในวันที่ 10 มีนาคมนี้
ที่ผ่านมากองทัพสหรัฐฯ ร่วมกับจอร์แดน พยายามส่งเครื่องบินนำสิ่งบรรเทาทุกข์และอาหารโปรยแจกจ่ายทางอากาศให้ประชาชนทางตอนเหนือของกาซา แต่ดูเหมือนความพยายามดังกล่าวจะช่วยเหลือได้เพียงเล็กน้อย
โดยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซากำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งองค์การสหประชาชาติเตือนก่อนหน้านี้ว่าประชากรในกาซากว่า 1 ใน 4 กำลังเผชิญภาวะอดอยาก
ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าเด็กๆ ที่อยู่ทางตอนเหนือของกาซากำลังจะเสียชีวิตเพราะความอดอยาก โดยพื้นที่ตอนเหนือของกาซาคาดว่ามีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 300,000 คนที่อาศัยอยู่โดยมีอาหารหรือน้ำสะอาดเพียงเล็กน้อย
ภาพ: Ashraf Amra / Anadolu via Getty Images
อ้างอิง: