วันนี้ (1 ส.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการประชารัฐสวัสดิการกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ที่อิมแพ็ก เมืองทองธานี โดยไฮไลต์ภายในงานคือการเปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงินประชารัฐ’ ที่เปิดโอกาสให้ร้านค้าต่างๆ สามารถใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ โดยแอปฯ ดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย
โครงการร้านค้าใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระค่าสินค้า เป็นการต่อยอดในการลดภาระค่าครองชีพให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศที่มีอยู่ 11.43 ล้านคน นอกเหนือไปจากการชำระเงินผ่านเครื่องรูดบัตร EDC ในร้านค้ากว่า 38,000 แห่งที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตรไปแล้ว ซึ่งการรับชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะเปิดโอกาสให้ร้านค้าเกือบทุกประเภท ทั้งร้านค้ารายย่อย ร้านโชห่วย แผงค้าในตลาดสด ทั้งแผงหมู แผงผัก แผงผลไม้ ร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ร้านหนูณิชย์ ผู้ค้าในตลาดต้องชม ตลาดกลางสินค้าเกษตร ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน และรถยนต์เร่ขายสินค้า เป็นต้น
โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยมีเป้าหมายเพิ่มร้านค้าอีกจำนวน 1-2 แสนราย ซึ่งขณะนี้ได้จัดส่งทีมงานลงพื้นที่เพื่อระดมรับสมัครร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแล้ว และล่าสุดมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 20,000 ราย นอกจากนี้รัฐบาลยังหวังว่าจะช่วยให้ร้านโชห่วยและผู้ค้ารายย่อยต่างๆ มีความเข้มแข็ง สามารถอยู่รอดได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
สำหรับผู้ที่เข้าโครงการพัฒนาตนเอง ยังได้รับวงเงินใช้จ่ายผ่านบัตรต่อเดือนเพิ่มอีก จากเดิม 300 บาทเป็น 500 บาทต่อเดือน และจากเดิม 200 บาท เป็น 300 บาทต่อเดือน เพื่อใช้จ่ายในการซื้อสินค้าในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐของกระทรวงพาณิชย์ โดยปัจจุบันมีการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 34,000 ล้านบาท