“จะหาแปรงแต่งหน้าคุณภาพดีๆ สักอัน ก็มีแต่แปรงราคาแพง แต่พอจะมองหาแปรงราคาถูก ก็มีแต่ของก๊อบปี้แบรนด์ดังเต็มไปหมด ไม่มีใครคิดจะทำแปรงแต่งหน้าคุณภาพดี ที่มาพร้อมราคาสมเหตุสมผลบ้างเหรอ?” จากคำถาม เกิดขึ้นระหว่างบทสนทนาข้ามประเทศของเพื่อนรักสองคน เอ็กซ์ กับ โจ้ เมื่อ 4 ปีก่อน กลายเป็นคำตอบที่ทั้งคู่ตอบคำถามตัวเองด้วยการตัดสินใจ สร้างแบรนด์ ‘บรัชทู’ (BrushToo) ขึ้นมา

     บรัชทู เป็นแบรนด์แปรงแต่งหน้าฝีมือคนไทย มีแนวคิดการ ออกแบบมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้ ภายในเวลา 2 ปี ที่ผลิตแปรงแต่งหน้าออกมาขาย อะไรทำให้บรัชทูกลายเป็นแปรงแต่งหน้ายอดฮิต ที่น่าสนใจมากที่สุดในเวลานี้ THE STANDARD จะพาไปรู้จักกับสองสาว เอ็กซ์-อมรรัตน์ เลิศพุทธิกุล และ โจ้-วาสนา เหล่าวณิชวิศิษฎ เจ้าของแบรนด์นี้ไปพร้อมๆ กัน

 

 

ก่อนทั้งคู่จะมาเป็นเจ้าของแบรนด์บรัชทู ทำอะไรมาก่อน
เอ็กซ์: ทำงานตำแหน่ง Strategic Consultant อยู่ที่บริษัท Bain & Company ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รับปรึกษาเรื่องธุรกิจให้กับบริษัทต่างๆ แต่ตอนนี้ก็กลับมาอยู่เมืองไทยได้ราวๆ สองปีกว่าค่ะ

โจ้: ส่วนโจ้ ทำธุรกิจของครอบครัวค่ะ ซึ่งเป็นธุรกิจโรงโม่หิน มันคนละฟีลกับที่โจ้มาทำแปรงแต่งหน้าเลย (หัวเราะ) คือระหว่างที่โจ้ทำธุรกิจของ ที่บ้าน เอ็กซ์ก็ทำงานอยู่ที่อเมริกาด้วย ความที่เราเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้เราทั้งคู่สนิทกันมาก แม้ว่าเอ็กซ์จะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ แต่เราก็ยังติดต่อคุยกันปกติ แล้วมันมีวันหนึ่งที่เอ็กซ์โทรมาเมาท์โน่นนี่ แล้วอยู่ๆ ก็คุยกันเรื่องแปรงแต่งหน้า

 

 

จุดเริ่มต้นบรัชทู เกิดจากคำถาม
เอ็กซ์: ตอนนั้นเอ็กซ์ถามโจ้ว่า ที่เมืองไทยมีแปรงแต่งหน้าแบรนด์ไทยยี่ห้อไหนเจ๋งๆ คุณภาพดีๆ บ้าง นั่นคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์เลย เป็นคำถามที่ จุดประกายให้โจ้ไปคิดต่อ ไปสำรวจดูว่าแปรงแต่งหน้าในประเทศไทย มียี่ห้อไหนบ้าง แล้วโจ้เขาก็ไปทำรีเสิร์ชมา

 

โจ้: ต้องย้อนกลับไปว่าในเมืองไทยเมื่อ 3-4 ปีก่อน ยังไม่มีแบรนด์แปรงแต่งหน้าของไทยเลย จะมีก็แต่แปรงเคาน์เตอร์แบรนด์ของเมืองนอกที่ดังๆ แต่ปัญหาก็คือแปรงแต่ละอันนี่ราคาโหดมาก พอจะหันไปหาแปรงดีๆ ในบ้านก็ไม่เจอ ดันไปเจอแต่ของปลอมเต็มไปหมด ซึ่งคุณภาพที่ได้ก็ไม่ประทับใจ ตอนนั้นเหมือนคนไทยมีอยู่แค่สองทางเลือกถ้าจะซื้อแปรงแต่งหน้า คือใช้ของปลอมที่ราคาถูกมาก บวกกับคุณภาพที่แย่มาก กับตัดสินใจซื้อแปรงของแบรนด์ดัง ได้คุณภาพเยี่ยม แต่ราคาแพงมาก เราก็คิดว่าทำไมนะ การจะหาแปรงแต่งหน้าคุณภาพดีๆ สักอัน ก็มีแต่แปรงราคาแพง แต่พอจะมองหาแปรงราคาถูก ก็มีแต่ของก๊อบปี้แบรนด์ดังเต็มไปหมด พอเอ็กซ์ถามมาตรงนี้เราสองคนเลยมองเห็นช่องทางว่ามันน่าจะเป็นไปได้นะ ถ้าจะทำแปรงแต่งหน้าที่เป็นแบรนด์ของเราขึ้นมา

 

 

โจทย์สำคัญและที่มาของชื่อ BrushToo
เอ็กซ์: โจทย์ของเราคืออยากทำแปรงแต่งหน้าที่เป็นแบรนด์ของคนไทยจริงๆ แล้วต้องเป็นแปรงแต่งหน้าที่มีคุณภาพ อาจเทียบเท่าหรือดีกว่าแปรงแบรนด์ เมืองนอกด้วยซ้ำ และต้องเป็นแปรงที่มีราคาเหมาะสม ทุกคนสามารถจับต้อง เป็นเจ้าของได้ โดยไม่รู้สึกว่าแพง ส่วนที่มาของชื่อบรัชทู เอ็กซ์นึกถึงตัวเองเวลา แต่งหน้าก่อน ซึ่งก็มีการใช้มือแต่งหน้าบ้าง แต่มันก็มีข้อดีข้อเสียในการใช้มือ เมื่อเทียบกับแปรง จะใช้มือแต่งหน้าก็ได้นะ แต่ก็ใช้แปรงด้วยสิ ก็เลยได้ไอเดียมา ตั้งชื่อที่เราอยากบอกลูกค้าของเราว่า “you need to use brush too” ต่อให้คุณใช้มือช่วยในการแต่งหน้า แต่คุณก็ต้องใช้แปรงร่วมด้วยนะ

 

โจ้: แล้วคำว่า too มันก็มีการพ้องเสียงกับความหมายอื่นด้วย เช่น two ซึ่งก็หมาย ถึงเราสองคนได้ด้วย แล้วมันก็จะมีอีก tool ที่แปลว่าเครื่องมือด้วย เราถือว่าแปรงแต่งหน้าก็เป็นเครื่องมือแต่งเติมความสวย เลยกลายมาเป็นชื่อนี้ในที่สุด

 

 

ดีไซน์ทุกอย่างออกแบบเพื่อโครงหน้าคนไทย

โจ้: ดีไซน์เราคิดมาด้วยกันเยอะมาก เราตั้งข้อสังเกตว่าแปรงเมืองนอกที่ผลิตใน เมืองนอก บางทีขนาดและดีไซน์ต่างๆ เขาออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์โครงหน้าของสาวฝรั่ง เราก็คิดว่าทำไมเราไม่ทำแปรงที่มันเหมาะกับโครงหน้าของคนไทยหรือสาวเอเชียล่ะ เราออกแบบให้แม้แต่น้ำหนักของแปรง พอมันอยู่ในมือของเราระหว่างแต่งหน้า น้ำหนักของมันต้องพอดี แปรงที่เบาไปบางทีมันก็แต่งหน้า แล้วไม่ได้สโตรกที่แม่นยำ ส่วนรูปทรง ขนแปรง เราดีไซน์มาเพื่อโครงหน้าสำหรับคนเอเชีย และไม่ใช่แค่นี้ เราทำออกมาหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกคน

เอ็กซ์: เพิ่มเติมในเรื่องดีไซน์ ความแตกต่างระหว่างแปรงแต่งหน้าของเมืองนอก กับแปรงไทย มันต่างกันนะ สมมติแปรงอายแชโดว์ โดยปกติแปรงแต่งตาของ ฝรั่งจะมีขนาดหัวแปรงค่อนข้างใหญ่นิดหนึ่ง ด้วยความที่โครงหน้าของเขา มีพื้นที่ของเปลือกตาเยอะ กระบอกตาเขาชัดกว่าคนไทยมาก เพราะฉะนั้นแปรงอายแชโดว์ของฝรั่งเลยมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับเปลือกตาของคนไทย แต่แปรงของเราเนี่ย เราเรียกว่า Small Eyeshadow ขนาดมันก็จะเล็กหน่อย เหมาะกับตาของคนไทย อย่างเอ็กซ์ ตาหมวยๆ แบบนี้ก็ใช้ได้ดีเลย คือมันจะเหมาะกับสาวไทยหรือเอเชียจริงๆ

 

จุดเด่นของแปรงแต่งหน้าบรัชทู

เอ็กซ์: อย่างแรกเลยคือใช้กับเครื่องสำอางได้ดี ลักษณะขนของแปรงเป็นขน สังเคราะห์ที่มีรอยหยัก ถ้าเอาขนแปรงไปส่องในกล้องจุลทรรศน์ มันจะมีรอยหยักทุกเส้นเพื่อที่จะจับเครื่องสำอางได้ดี ซึ่งการทำรอยหยักเป็นการทำเลียนแบบขนสัตว์นั่นเองค่ะ เหมือนกับเส้นผมคนเรา มันก็ไม่ได้เป็นเส้นเรียบๆ อย่างเดียว มันจะมีเกล็ดผมด้วยเพื่อที่จะจับเครื่องสำอางได้ติดดี จุดเด่นอีกอย่างคือขนแปรงนุ่ม ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติแอนไทแบคทีเรีย ทำความสะอาดง่าย และรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เหมาะกับโครงหน้าของสาวไทย

 

สังเกตว่าในเมืองไทยก็มีแปรงแต่งหน้าหลายแบรนด์เกิดขึ้น

โจ้: คนเริ่มทำแปรงแต่งหน้าเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะปีนี้ แต่ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้เราค่อนข้างคิดนะว่าเราเป็นผู้บุกเบิกแปรงแต่งหน้าที่เป็นแบรนด์ไทย จริงๆ เราต้องการมาตอบโจทย์ตลาดตรงนี้ แล้วเราก็ทำได้ พอเราเปิดตัวไปสักปีหนึ่ง คนก็เริ่มเข้ามาทำบ้าง แต่เราไม่ได้มองแบรนด์อื่นเป็นคู่แข่งของเราซะทีเดียว เพราะเรากล้าพูดได้ว่าเรื่องคุณภาพของเราไม่แพ้ใคร เราทำเป็นเจ้าแรกๆ ด้วยซ้ำ แบรนด์อื่นอาจจะเน้นที่ดีไซน์ รูปลักษณ์ที่สวยงาม เราก็มองว่าแปรงแบบนั้น ก็ไปจับอีกตลาดหนึ่ง ซึ่งคนละทาร์เก็ตกับเรา เขาอาจจะเน้นคนที่ชอบอะไรที่เป็นแฟชั่น แต่แปรงของเราเน้นที่คุณภาพ และคิดมาเยอะมากกว่าจะลงตัว เป็นแปรงทั้งหมดที่เราผลิตออกมา

 

 

ความจำเป็นของแปรงแต่งหน้า
โจ้: แปรงแต่งหน้าเปรียบเป็นเหมือนอุปกรณ์ที่ทำให้คนแต่งเติมเมกอัพแล้วสวยขึ้น ความสวยเป็นกุญแจสำคัญของหลายๆ คนเลย ช่วยสร้างบุคลิกภาพได้ ช่วยสร้างความมั่นใจได้ เพราะฉะนั้นประโยชน์ของแปรงแต่งหน้ามันมีอยู่แล้ว คนที่ต้องการความเพอร์เฟกต์ในการแต่งหน้า จะเชื่อมั่นในแปรงแต่งหน้ามากกว่าใช้มือ ถ้าถามว่าควรจะมีแปรงแบบไหนบ้าง โจ้ว่ามันต้องดูความต้องการของแต่ละคนมากกว่า ว่าเขาต้องการจะใช้แปรงเพื่อแต่งเติมความสวย หรือแก้ปัญหาตรงจุดไหนบ้าง เช่น คนที่มีผิวหน้าไม่เรียบ ก็อาจจะต้องใช้แปรงลงรองพื้น คนคิ้วไม่เป็นทรงเขาก็ต้องการแปรงที่ช่วยเติมเต็มสีคิ้วให้สวยได้รูป คือมันก็ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของแต่ละคน แล้วก็ต้องเป็นอินเนอร์ของเขาเอง ที่จะรู้ว่าตัวเขาเองต้องการแปรงอะไร

 

ปัญหาที่พบของบรัชทูจากการทำธุรกิจ

โจ้: เนื่องจากเราไม่เคยทำธุรกิจในแวดวงความงามมาก่อน เราสองคนมาจับธุรกิจแปรงแต่งหน้าครั้งแรก ก็ต้องรีเสิร์ชอะไรกันเยอะมาก แล้วปรากฏว่าเราก็เจอปัญหาที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น นั่นคือตอนที่มีการเปิดตัวคอลเล็กชันแรกของเรา ปรากฏว่าแปรงขายดีมาก จนของหมดไม่มีขาย มันน่าดีใจที่เราขายหมด แต่สำหรับเราตอนนั้นมันคือปัญหาที่เราต้องรับมือครั้งแรก เพราะระหว่างที่ของหมด มันมีช่วงเวลาว่างเปล่าที่ไม่มีสินค้าออกมาเลย การที่สต๊อกขาดทำให้เราสูญเสีย โอกาสทางธุรกิจไปช่วงหนึ่งเลย เพราะแปรงแต่งหน้ามันต้องใช้เวลาในการผลิต เพื่อคุณภาพที่ดีและได้มาตรฐานจริงๆ ปัญหาสต๊อกขาดตลาดตรงนี้ ทำให้เราต้อง ยอมรับเลยว่าเราประเมินตลาดผิดไป เราไม่คิดว่ากลุ่มคนที่เป็นทาร์เกตกรุ๊ปของเราจะใหญ่ขนาดนี้

 

เอ็กซ์: อีกเรื่องหนึ่งที่เราคิดว่าเป็นปัญหาก็คือ ถ้าเทียบกับแบรนด์ที่โตเร็ว ออกมาปุ๊บดังเลย กระแสดี แต่แบรนด์ของเราเป็นแบรนด์ที่ออกสินค้าช้า อาจเป็นเพราะกว่าเราจะทำอะไรสักอย่าง เราถกเถียงและช่วยกันหาไอเดียต่างๆ อยู่นานมาก แก้แล้วแก้อีก ปรับแล้วปรับอีก บางทีความคิดเราต่างกัน กว่าจะได้ผลิตเลยต้องถกกันอยู่นานมาก

โจ้: ต่างคนต่างมีความเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ ก็จะแบบอันนี้ไม่ได้ อันนั้นไม่ผ่าน ทุกอย่างกว่าจะออกมาได้ มันต้องผ่านเราสองคนว่าสิ่งนั้นดีที่สุด พอช้าปุ๊บ มันก็จะสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปเหมือนกันในแง่ของความล่าช้า แต่เราก็คิดว่าในความช้า มันมีข้อดีของมันตรงที่เวลาเราส่งสินค้าออกมา แต่คุณภาพดีจริง ลูกค้าก็มั่นใจและได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าเป็นอย่างดี

 

เอ็กซ์: เราเชื่อว่าถ้าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพ มันจะเติบโตอย่างยั่งยืน มันจะไม่เหมือนกับแบรนด์ที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ไป ลูกค้าจะจำเราได้จากคุณภาพที่เขาได้รับ ซึ่งเป็นฟีดแบ็กที่เราได้รับจากลูกค้าจริงๆ บางคนซื้อแปรงเราไปแล้วสองอัน พอผ่านไปสักพัก เขากลับมาซื้อแปรงเราอีก นี่คือเราให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเราพิสูจน์ตัวเอง

 

 

แปรงดาวเด่นของแบรนด์บรัชทูมีอะไรบ้าง

โจ้: ซิกเนเจอร์ของแบรนด์เราคือ Magic Mint เป็นแปรงแต่งหน้าด้ามสีเขียวมินต์ มีประมาณ 22 แปรง และมีเป็นลิมิเต็ดเอดิชัน คือ Magic Glow แปรงที่มีด้ามจับเป็นสีทอง เป็นเซตสีทอง ที่จะดูหรูหรากว่าปกติ ได้รับผลตอบรับดีเช่นกัน แล้วก็มีเซตจิ๋วของรุ่น Magic Mint ซึ่งบอกเลยว่าแปรงเซตมินิ มันเกิดจากลูกค้า คือพอลูกค้าซื้อแปรงเซต Magic Mint ไป ส่วนมากจะติด เวลาไปไหนก็จะพกไปด้วย แต่ด้วยไซส์ปกติ มันอาจจะลำบากนิดนึงในการพกพา เราเลยทำเป็นเซตจิ๋วขึ้นมา ออกแบบด้ามจับให้สั้นลง แต่ขนาดของหัวแปรงเป็นขนาดเดียวกับเซตปกติของ Magic Mint ทำให้สามารถพกพาแปรงทั้งหมดที่ใช้ในชีวิตประจำวันไปไหนมาไหนด้วยได้

 

 

เอ็กซ์: นอกจากนี้เรายังมี Brushcare ผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาดแปรงแบบ ครบวงจร จะเป็นน้ำยาล้างแปรง แล้วก็ที่ล้างแปรง แผ่นรองล้างแปรง ถุงมือ ล้างแปรง เหมือนกับเราเป็นเอ็กซ์เปิร์ตคอลเล็กชันที่ผลิตออกมาให้มันครบวงจรเกี่ยวกับแปรงแต่งหน้ามากที่สุด และน้องใหม่คือแบรนด์ ShadeToo เป็นเครื่องสำอางเราเริ่มต้นด้วยการทำอายไลเนอร์ออกมาค่ะ ซึ่งผลตอบรับก็ดีมากเช่นกัน

 

 

เคล็ดลับการทำธุรกิจกับเพื่อนให้อยู่รอด

เอ็กซ์: มีคนถามเยอะว่าความเป็นหุ้นส่วนต้องทำอย่างไร เวลาคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาทำธุรกิจด้วยกัน บางคนพอเป็นพาร์ตเนอร์กันปุ๊บ สักวันมันก็จะเกิดความขัดแย้ง เหมือนจะลืมความเป็นเพื่อนไป แต่คู่ของเรายังไม่มีเหตุการณ์แบบนั้น

 

โจ้: ถ้าถามว่าเราสองคนมีเรื่องขัดแย้งกันไหม เราจะมีความขัดแย้งเฉพาะในการคุยงานเท่านั้น เราโต้เถียงกันในไอเดีย แต่เราไม่เคยโต้เถียงกันเรื่องผลประโยชน์ แต่สุดท้ายเราก็หาจุดตรงกลางได้

 

เอ็กซ์: เคล็ดลับของเราที่รู้กันคือ ถ้ามีช่วงไหนที่โจ้เหนื่อยหรือโจ้ท้อ เอ็กซ์ก็จะต้อง แบบว่า ห้ามท้อ อีกคนต้องเป็นหลักให้กับอีกคนให้ได้ บางทีมันจะสลับๆ กัน

 

 

BrushToo Mini Edition เมื่อเซทแปรงที่ขายดีที่สุด Perfect look set (10แปรง) มาในไซส์มินิ ขนาดพกพา แต่คุณภาพเหมือนด้ามปกติเป๊ะ เป๊ะ เป๊ะ ✨ ทั้งขนาดและรูปทรงขนแปรง เพิ่มเติมคือความตะมุตะมิ ด้ามแปรงสีเขียว signature ของ BrushToo และกระเป๋าน่ารักสุด unique ใครไม่หลงรักก็พระอิฐพระปูนมากๆค่า Promotion เปิดตัว Mini Perfect Look set 10 แปรงพร้อมกระเป๋า เพียง 2,490 บาท (หมดช่วงเปิดตัว ราคาปกติ 2,790 บาทค่า) ใครอยากรู้ว่า เซทนี้มีดียังไง โปรดอ่านทางนี้ค่ะ ??? สาวๆที่พบกับปัญหา แปรงพกพาไม่ถูกใจ เพราะปกติแบรนด์อื่นๆจะลดขนาดทรงขนแปรงให้เล็กตามไปด้วย ทำให้ใช้ไม่สะดวก ขนแปรงไม่แน่น ❌ แต่ BrushToo ไม่ทำอย่างนั้นค่ะ ✅ BrushToo เราขึ้นชื่อด้านขนนุ่ม ขนแน่น จิกสี ยังไง แปรงมินิเซทนี้ก็เหมือนแปรงปกติทู้กกกประการ ขอย้ำว่า เหมือน เด่ะ เด่ะ เด่ะ ท้าพิสูจน์ นำมาเทียบขนาดขนแปรงกันด้ามต่อด้ามได้เลยค่า ? แถมแปรงเซทนี้ ยังครอบคลุมตั้งแต่การรองพื้น คอนซีลเลอร์ ลงแป้ง ปัดแก้ม เฉดดิ้ง เขียนตา คิ้วและทาปาก เซทเดียวจบ มาพร้อมกระเป๋าใส่แปรง สามารถพกพาความมุ้งมิ้งไปเราด้วย แต่งหน้าตอนเช้าไม่ทัน ไปแต่งบนรถ ด้ามแปรงก็ไม่ชนกระจก (ใครเคยเจอปัญหานี้บ้างคะ?!?!?) พกไปเติมระหว่างวัน ก็เบากะทัดรัด แถมหน้าตากระเป๋าก็ช่วยเสริมบุคลิคมุ้งมิ้งของสาวๆอีกด้วย ควรค่าแก่การพกไปต่างจังหวัด ต่างประเทศอีกต่างหากนะคะสาวๆ ใครอยากซื้อแปรงแยกเดี่ยวๆ เราก็มีขายนะคะ ราคาตามนี้เลยค่า ?? 1. Powder Brush/ แปรงปัดแป้ง 490 บาท 2. Flat Kabuki Brush/ แปรงทารองพื้น 490 บาท 3. Precision Flat Angled Brush/ แปรงลงรองพื้นบริเวณใต้ตา มุมจมูก 320 บาท 4. contour/ highlight แปรงเฉดดิ้งโครงหน้า 390 บาท 5. Blush Blush/ แปรงปัดแก้ม 420 บาท 6. Small Eyeshadow Brush/ แปรงทาอายชาโดว์ขนาดเล็ก 290 บาท 7. Angled Eyeshadow Brush/ แปรงทาอายชาโดว์ ปลายตัดเฉียง 320 บาท 8. Blending brush / แปรงเบลนดิ้ง 320 บาท 9. Angled Eyebrow Brush/ แปรงเขียนคิ้ว 290 บาท 10. Lip brush / แปรงทาลิป 220 บาท (ราคารวมปกติทั้งเซท 4,010 บาท ลดพิเศษ เหลือ 2,790 บาท พิเศษราคาเปิดตัวเซท 2,490 บาทค่า)

A post shared by แปรงแต่งหน้า เครื่องสำอาง (@brushtooshadetoo) on Aug 1, 2017 at 6:05pm PDT