×

ใครอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์บ้าง? Beaker and Bitter คาเฟ่อารีย์ที่จะมาสานฝันในวัยเด็กของคุณ

21.05.2020
  • LOADING...

ครั้งหนึ่งในชีวิตวัยเด็ก หลายคนน่าจะเคยฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ใส่เสื้อกาวน์สีขาว เทสารเคมีผสมกันจนเกิดเป็นควันหลากสีฟุ้งไปทั่วห้องเหมือนในการ์ตูน แม้โตขึ้นมาแล้วอาจจะลืมเรื่องที่เคยฝันสนุกๆ ไปแล้ว แต่ที่ ‘Beaker and Bitter’ คาเฟ่อารีย์ธีมวิทยาศาสตร์ จะพาคุณไปโลดแล่นในโลกแห่งความฝันนั้นอีกครั้งหนึ่ง

 

Beaker and Bitter เป็นคาเฟ่ธีมวิทยาศาสตร์ที่ใช้พื้นที่โรงงานยาอายุกว่า 50 ปีของครอบครัว ‘บิ้วด์-ภีมณพัชญ์ ธนชาญวิศิษฐ์’ และความคิดสร้างสรรค์ทั้งในเรื่องของธีมร้าน กิจกรรม และเมนูต่างๆ ของ ‘เคนนี่-เขม อินทรรักษ์’

 

บรรยากาศทางเข้าร้าน

 

บันไดวนสู่ชั้นสองที่สามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้

 

เคาน์เตอร์หลัก

 

The Vibe 

เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นโรงงานยามาก่อน ร้านกาแฟอารีย์แห่งนี้จึงไม่จำเป็นต้องสร้างสตอรีขึ้นมาเพิ่มเติมเลย เพียงแต่หยิบเรื่องราวของความเป็นโรงงานยามาเล่าใหม่ให้สนุกยิ่งขึ้น และให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสประสบการณ์สนุกๆ ของการสำรวจโรงงานยาแห่งนี้ ทั้งราวแขวนเสื้อกาวน์ที่ทุกคนสามารถหยิบขึ้นมาใส่ถ่ายรูปได้ การจัดแสดงอุปกรณ์สำหรับทำยาที่นำอุปกรณ์จริงมาจัดวางให้เห็นกันไปเลยว่าสมัยก่อนที่นี่ทำยากันแบบไหน และกิจกรรมหาหนูทดลองที่หายไป ที่สนุกกันทั้งฝ่ายพนักงานที่เป็นคนหาที่ซ่อนทุกเช้า และฝ่ายลูกค้าที่แทบจะพลิกร้านหาว่าหนูทดลองหายไปซ่อนที่ไหน ถ้าใครหาหนูทดลองเจอและนำมาคืนจะได้รับเครื่องดื่มฟรีหนึ่งแก้วเป็นของตอบแทน

 

Alpha Lab สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงาน

 

Beta Lab ห้องสำหรับนั่งคุยกับเพื่อนๆ

 

โซนจัดแสดงอุปกรณ์ทำยา

 

ความตั้งใจของเจ้าของร้านทั้งสองนั้นอยากให้ Beaker and Bitter เป็นสถานที่ที่ลูกค้าเข้ามาแล้วมีความสุข ไม่ว่าคุณจะเข้ามาทำอะไร มาพบปะพูดคุยกับเพื่อน มาหากาแฟดื่มสักแก้ว มาอ่านหนังสือ มานั่งทำงาน Beaker and Bitter ก็จะตอบโจทย์ของคุณได้ทุกข้อ ถ้าคุณเป็นคนที่ไปอ่านหนังสือหรือทำงานที่ร้านกาแฟบ่อยๆ คุณน่าจะเคยเจอกับจำนวนคนมหาศาลที่กดดันรอคิวมานั่ง หรือเสียงเครื่องปั่นที่ดังทะลุหูฟังเข้ามา Beaker and Bitter ก็มีห้อง Alpha Lab สำหรับคนที่อยากมานั่งอ่านหนังสือหรือทำงาน โดยห้องนี้จะเป็นห้องที่ไม่อนุญาตให้ใช้เสียง ห้ามคุยกัน ห้ามเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ มีที่กั้นระหว่างโต๊ะ มีที่ชาร์จ สายชาร์จ และผ้าห่มให้ยืม ส่วนใครที่ตั้งใจมานั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อนก็มี Beta Lab ที่สามารถนั่งคุยได้เต็มที่ โต๊ะหินอ่อนในห้อง เมื่อมองดีๆ จะเห็นว่าเป็นโต๊ะกลมที่ถูกตัดขอบออกไปเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะทางร้านยอมสูญเสียความสวยงามของโต๊ะหินอ่อนทรงกลมไปเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการต่อโต๊ะ สำหรับกลุ่มเพื่อนที่มากันหลายคน สามารถนำโต๊ะมาต่อกันได้แบบแนบสนิท วางของกินได้เยอะขึ้น นอกจากนี้ทางร้านยังมี Charlie Lab และ Delta Lab ที่เปิดเป็น Co-working Space อีกด้วย

 

Food & Drink 

อาหารและเครื่องดื่มของที่นี่จะถูกเสิร์ฟบนอุปกรณ์ในห้องแล็บ ไม่ว่าจะเป็นบีกเกอร์ ขวดชมพู่ คีมคีบ ถาดสเตนเลส ส่วนเครื่องดื่มจะเสิร์ฟบนตะเกียงแอลกอฮอล์ พร้อมควันจากน้ำแข็งแห้งพวยพุ่งขึ้นมาเป็นกิมมิกเล็กๆ ให้ได้ถ่ายรูปกัน

 

R.I.P. (145 บาท)

 

R.I.P. (145 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่เกิดจากแนวคิดที่ว่าอยากทำให้กาแฟดำดื่มง่ายขึ้นโดยการผสมพีชและกุหลาบลงไป ทำให้เราได้รู้ว่า R.I.P นั้นย่อมาจาก Rose In Peach นั่นเอง เมื่อจะดื่มต้องเทกาแฟจากขวดรูปชมพู่ใส่ลงในบีกเกอร์ และใช้คีมคีบพีชกับกลีบกุหลาบวางลงไปด้านบน เป็นเมนูที่ทำให้ทุกคนสนุกกับการใช้อุปกรณ์ห้องแล็บ และกาแฟแก้วนี้ก็ดื่มง่ายสมความตั้งใจของทางร้านจริงๆ

 

Coconut Cake (145 บาท)

 

Volcano Magma Lava (245 บาท)

 

ส่วนใครชอบกาแฟนมก็มี Cold Minty Latte (125 บาท) กาแฟใส่นมมินต์ที่เย็นสดชื่นจากกลิ่นมินต์ อย่าลืมสั่ง Coconut Cake (145 บาท) มากินคู่กัน เค้กมะพร้าวรูปทรงสี่เหลี่ยมนี้มีที่มา เพราะถ้าคุณสังเกตดีๆ องค์ประกอบในร้านจะเป็นเส้นแนวตั้งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรั้ว ตัวตึก หรือภายในร้าน ถ้าเค้กมะพร้าวชิ้นนี้เป็นรูปทรงอื่นคงจะไม่ได้ ส่วนเมนูของคาวสำหรับใครที่หิวจัดก็มี Volcano Magma Lava (245 บาท) ครัวซองต์กองกันเป็นรูปภูเขา โปะด้วยเบคอนเบิร์น ราดด้วยชีส รูปร่างเหมือนภูเขาไฟที่กำลังระเบิดอยู่

 

รถเข็นบริการน้ำดื่มและหลอด

 

อีกสิ่งที่น่าประทับใจนั่นก็คือสิ่งที่เห็นว่าเป็นพลาสติกในร้านอย่างแก้ว ฝา หลอด นั้นเป็นพลาสติกแบบ Biodegradable ทั้งหมด แม้แต่ถุงขยะที่ลูกค้ามองไม่เห็นก็เป็นพลาสติกแบบ Biodegradable เช่นกัน ด้วยความตั้งใจของทางร้านที่อยากจะรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน

 

ตอนนี้ทางร้านเปิดให้บริการตามปกติ สามารถนั่งทำงานในส่วน Alpha Lab ได้ มีที่กั้นระหว่างโต๊ะ หรือจะสั่งเดลิเวอรีก็ได้เช่นกัน

 

Beaker and Bitter

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.

Address: 4 ซอยสายลม 1 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ

Budget: 200-500 บาท

Contact: 08 2989 6946

Website: https://www.facebook.com/beakerandbitter/

Map: https://goo.gl/maps/ny5dvabBpEuoYMaH8

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

 


 

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising