Ba Hao Tian Mi (ปาเฮ่าเถียนมี่) โมเดิร์นไชนีสพุดดิ้งช็อป บ้านเลขที่ 8 ใจกลางเยาวราช

เทรนด์ร้านอาหารและบาร์จีนในกรุงเทพฯ ดูจะค่อนข้างร้อนแรง แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ย้อนไปเกือบ 3 ปีที่แล้ว ค็อกเทลบาร์จีนแห่งแรกๆ คงต้องยกให้ Ba Hao ซอยนานา สายเที่ยวและบาร์ฮอปปิ้งคงรู้จักกันดี ด้วยเอกลักษณ์ทั้งการตกแต่ง ไฟนีออน อาหาร และเครื่องดื่ม ที่ดูจะกระทำความหว่องด้วยกันทั้งสิ้น แถมหลายคนไปที่นี่ก็เพื่อ Ba Hao’s Pudding เราชักจะสงสัยว่าพุดดิ้งของเขามีดีอะไร และทำไมพุดดิ้งถึงได้ต่อยอดให้ Ba Hao ต้องเปิดบ้านเลขที่ 8 แห่งที่สองในย่านไชน่าทาวน์ เยาวราช

Ba Hao Tian Mi เราสะดุดตาตั้งแต่ชื่อร้าน เอ๊ะ จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเพลง เถียนมีมี่ ของเติ้งลี่จวิน หรือเปล่า หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านยิ้มแล้วบอกเราว่า ก็ไม่เชิง เพราะ เถียนมีมี่ ในเพลง หมายถึงความรักอันหวานชื่นดุจน้ำผึ้ง ส่วนเถียนมี่ของ Ba Hao นั้นหมายถึงความหวานจากของหวานจริงๆ (Tian = หวาน, Mi = น้ำผึ้ง) ด้วยเหตุนี้ชื่อร้านจึงได้บอกเป็นนัยว่าเป็นร้านของหวานนั่นเอง

ไอเดียของ Ba Hao Tian Mi มาจาก Ba Hao’s Pudding ของหวานยอดฮิตที่ Ba Hao ซอยนานา เป็นที่ติดอกติดใจหลายคนจนต้องจองก่อนถึงจะได้กิน และเห็นว่าพุดดิ้งเป็นขนมหวานที่ต่อยอดและผสมผสานกลิ่นอายความเป็นจีนเข้าไปได้ และจากการตระเวนหาโลเคชันสำหรับบ้านหลังที่สอง ในที่สุดก็มาลงเอยที่คูหาเล็กๆ ย่านเยาวราช ซอยเดียวกับ Texas Suki แถมยังเป็นเลขที่ 8 อีกด้วย จึงไม่รอช้าที่จะรีโนเวตและแต่งเติมพื้นที่เล็กๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมเดิมให้มาเป็นร้านพุดดิ้งโมเดิร์นไชนีส โดดเด่นท่ามกลางความเก่าแก่ของร้านรวงในซอยผดุงด้าว

ตัวร้านโดดเด่นด้วยซุ้มทางเข้าวงกลมเหมือนบ้านคนจีนสมัยก่อน พื้นร้านเป็นหินขัดทำใหม่เอี่ยม ฝีมือช่างเก่าผู้เชี่ยวชาญการทำฮวงซุ้ย ตัวพื้นแกะสลักเป็นภาพเด็กวิ่งเล่นสนุกสนาน ซึ่งเป็นเทคนิคการแกะสลักลวดลายหินขัดที่แทบจะไม่หลงเหลือในยุคปัจจุบันแล้ว เคาน์เตอร์หินขัดสีฟ้าซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของ Ba Hao ออกแบบให้โค้งเข้าหาผนังร้าน เป็นทั้งเคาน์เตอร์รับออร์เดอร์และโต๊ะกินขนม มีเก้าอี้สูงให้นั่งแก้เมื่อย หรือจะยืนกินแบบบิสโทรก็โอเค

The Dishes

เมนูของกินที่ร้านมีแค่พุดดิ้ง เครื่องดื่ม และโทสต์ เพราะเป็นร้านของหวานจึงมีเมนูไม่มากและมีเท่านี้ วัตถุดิบหลายอย่างที่ใช้ล้วนแต่คัดสรรมาจากร้านเก่าแก่ในเยาวราช ไม่ว่าจะเป็นชา ใบบัวบก หมูหย็อง เก๋ากี้ หรืองาดำ เดินเยาวราชแดดร้อนๆ แบบนี้พุดดิ้งเย็นๆ คือคำตอบสุดท้าย ไม่รอช้าที่จะสั่ง Rambutan Granita Pudding (148 บาท) พุดดิ้งนมถั่วเหลืองผสมนมกับครีม ท็อปด้วยเงาะกระป๋องและน้ำเชื่อมใส ที่ฟรีซจนเป็นเกล็ดหิมะ ตักกินให้เย็นชื่นใจ แล้วค่อยไปตะลุยเดินกันต่อ

Rambutan Granita Pudding

สายไข่มุกก็มีเมนูเอาใจกับ Bubble Milk Tea Pudding (118 บาท) พุดดิ้งผสมชาจีนเยาวราชให้รสชาที่เข้มข้น ราดน้ำเชื่อมเก๋ากี้สูตรพิเศษของ Ba Hao จากนั้นค่อยใส่ไข่มุกเคี้ยวหนึบให้กินคู่กับพุดดิ้งเนื้อนุ่มแน่น

Bubble Milk Tea Pudding

ถ้าหากพุดดิ้งสองถ้วยที่ผ่านไปยังไม่ใช่แนว เราขอแนะนำให้ลอง Black Sesame Pudding (128 บาท) พุดดิ้งโรยผงงาดำเน้นๆ จนเคลือบพุดดิ้งทั้งก้อน เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมงาดำถ้วยจิ๋วที่เสริมรสหวานมัน ทำให้พุดดิ้งงาดำที่ดูเหมือนจะกินได้ยาก กลับกินได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ สัมผัสถึงความหอมจากงา และรสหวานมันของเนื้อพุดดิ้งและน้ำเชื่อมงาดำ

Black Sesame Pudding

แม้จะไม่มีอาหารคาวเสิร์ฟ แต่ก็มีโทสต์รสกึ่งกลางระหว่างอาหารกับของหวานมาให้แบ่งกินแก้หิว Pork Floss Toast with Egg Yolk Custard (188 บาท) โทสต์หมูหย็องที่โรยมาแบบจัดเต็ม ตัวขนมปังเคลือบเกล็ดเล็กๆ ให้มีความกรุบกรอบ ใช้มีดตัดเข้าเนื้อขนมปังข้างในเป็นไส้คัสตาร์ดไข่แดงเค็ม กินพร้อมกันทั้งหมดได้ความหวาน มัน เค็ม ครบรส

Pork Floss Toast with Egg Yolk Custard

กินของหวานไปสักพักก็ต้องสั่งน้ำมาล้างปาก ลองสั่งเมนูแปลก Bai Bua Bok Latte (128 บาท) น้ำใบบัวบกคั้นสดจากเยาวราชท็อปอยู่ส่วนบนสุดของแก้ว แยกชั้นกับนมสดตรงกลาง และน้ำเชื่อมเก๋ากี้ที่อยู่ชั้นล่างสุด ถ่ายรูปเสร็จอย่าลืมคนให้เข้ากันก่อนดื่ม

Bai Bua Bok Latte

เติมความสดชื่นอีกหนึ่งต่อกับ Fresh Som Jeed (108 บาท) น้ำส้มจี๊ดหรือคัมควอทในภาษาอังกฤษ ส้มจี๊ดที่ใช้ไม่ได้มาจากเยาวราช แต่ใช้ของสวนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช คั้นสดใหม่ทุกแก้ว ด้วยความส้มจี๊ดมีรสเปรี้ยวจี๊ดสมชื่อ หากจะดื่มสดๆ ไม่ผสมอะไรเลยก็ดูจะเป็นเรื่องยาก ทางร้านจึงเพิ่มน้ำเชื่อมเข้าไปอีกนิดหน่อยให้ดริงก์แก้วนี้มีรสกลมกล่อมและดื่มง่ายกว่าเดิม