×

ต้า สรอรรถ เผยมีอาการบาดเจ็บ จึงตัดสินใจฟาวล์เพื่อเซฟร่างกายไว้แข่งขัน 4×100 เมตรชาย

โดย THE STANDARD TEAM
01.10.2023
  • LOADING...
สรอรรถ ดาบบัง

วานนี้ (30 กันยายน) หลังการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ต้า-สรอรรถ ดาบบัง นักวิ่งทีมชาติไทย ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัวเขาออกตัวฟาวล์ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยเปิดเผยว่าเป็นไปเพราะความตั้งใจที่จะออกจากการแข่งขัน

 

โดยสรอรรถเปิดเผยเรื่องดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ผมขอขอบคุณและขอโทษแฟนกีฬากรีฑาทุกๆ ท่านและผู้ชมทางบ้านทุกๆ คนด้วยครับ วันนี้ผมทำเต็มที่และสุดความสามารถแล้วจริงๆ

 

“เหตุผลที่ผมออกตัวฟาวล์นั้น เพราะผมมีอาการจากรอบคัดเลือกวันแรก หลังจากเข้าเส้นชัยมีการเบียดหรือชนผู้เข้าแข่งขัน ผมเลยมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (แฮมสตริงซ้าย) และมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า (ข้อเท้าขวา) เวลาในรอบนั้นทำได้ 10.26s ต่อมารอบรองชนะเลิศผมมั่นใจว่าผมวอร์มดีแล้ว ยืดดีแล้ว ร่างกายพร้อมที่จะแข่งขันแล้ว

 

“ตอนแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ก่อนเข้าเส้นชัย 20 เมตรสุดท้าย ผมมีอาการเจ็บต้นขาด้านหลัง (แฮมสตริงฝั่งขวา) เนื่องด้วยผมใช้กำลังทั้งหมดในการที่จะผ่านรอบรอง เวลาในรอบนี้ผมทำได้ 10.16s

 

“หลังจากแข่งเสร็จผมได้คุยกับโค้ชว่าผมอยากจะถอน เพราะผมไปต่อไม่ไหว (ถ้าแข่งจริงๆ ผมคงกล้ามเนื้อกระตุก และไม่สามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมล่าเหรียญ 4×100 ได้ครับ) ผมเลยตัดสินใจที่จะทำฟาวล์เพื่อจะเซฟตัวเองและเพื่อนร่วมทีมในการแข่งขันครั้งต่อไป ผมขอบคุณและขอโทษจากใจจริงๆ ครับ ผมจะกลับมาในรูปแบบที่ดีกว่านี้แน่นอนครับ ในรอบนี้ผมได้ประสบความสำเร็จด้วยการทำ new pb ได้ถึง 2 ครั้ง 10.26s และ 10.16s สุดท้ายผมยินดีกับเจ้าบิวมากๆ และภูมิใจในตัวน้องคนนี้มากๆ ที่ทำลายสถิติตัวเอง 10.02s”

 

ต่อมาสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ประกาศว่า สรอรรถได้แจ้งถอนตัวจากการแข่งขันรายการวิ่ง 200 เมตรชาย เพื่อเซฟตัวนักกีฬาไว้สำหรับการแข่งขันวิ่งผลัด 4×100 เมตรเรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับรายการวิ่ง 200 เมตรชาย สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ยังคงส่ง บิว-ภูริพล บุญสอน ลงแข่งขันอยู่ โดยในรอบคัดเลือกจะแข่งขันกันในวันนี้ (1 ตุลาคม) เวลา 09.15 น. 

 

ขณะที่การแข่งขันวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย รอบคัดเลือกจะแข่งขันในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ เวลา 08.20 น. และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 3 ตุลาคม เวลา 20.25 น. ตามเวลาประเทศไทย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising