วันนี้ (3 เมษายน) อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงเบื้องหลังการตัดสินใจลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบปาร์ตี้ลิสต์ และความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าที่ตนไปลงปาร์ตี้ลิสต์เพราะมีความเชื่อว่าอยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. ด้วย เพราะนายกฯ ที่เป็น ส.ส. จะเข้าใจชาวบ้านได้มาก เขาจะรู้สึกว่าตัวเองมาจากชาวบ้านเลือก จะให้เกียรติและเคารพชาวบ้าน นี่คือความคิดของพรรคภูมิใจไทย มันเป็นแนวทางของเรา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง อนุทินตอบว่า จับไปตอนนี้ไม่มีประโยชน์ ทุกอย่างต้องดูหลังเลือกตั้ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อนุทินกล่าวว่า ถ้าประชาชนเลือกมาก็พร้อม แต่ขอทำตามกติกา ถ้าเสียงพรรคไหนได้มาที่ 1 ต้องให้เขาตั้งรัฐบาลก่อน ถ้าตั้งไม่ได้ก็ถึงคิวพรรคลำดับถัดไป เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบว่า “เราจะร่วมงานกับพรรคที่ต้องการทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ใครก็ได้ที่คิดดีกับบ้านเมือง ใครก็ได้ที่ไม่นิยมความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ใครก็ได้ที่ไม่ดึงฟ้าต่ำ เราร่วมได้หมด”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเป้าหมายจำนวน ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ อนุทินย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยยังคงยืนยันเป้าเดิมคือ 120 ที่นั่ง แต่เป้าหมายก็คือเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายของเราก็มาจากการศึกษาวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ นี่ไม่ใช่เป้าหมายเพื่อสร้างความฮึกเหิม แต่นี่คือสิ่งที่อยู่ในความสามารถของพรรค สุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นกับพี่น้องประชาชน