×

หาคำตอบ ทำไม AIS แบรนด์สัญชาติไทยจึงผงาดขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

โดย THE STANDARD TEAM
27.05.2019
  • LOADING...

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวงการโทรคมนาคมไทยและวงการธุรกิจมีข่าวของเจ้าตลาดอย่าง AIS ที่ได้รับรางวัลแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก World’s Strongest Telecoms Brand จากการจัดอันดับของ Brand Finance เอาชนะแชมป์เก่าอย่าง China Mobile จากประเทศจีน

 

นี่เป็นครั้งแรกที่แบรนด์สัญชาติไทยสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับสูงสุด สำหรับในประเทศไทย เราไม่มีข้อกังขาสำหรับการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่มียอดลูกค้าเกินกว่าครึ่งของประชากรไทย และมีการเติบโตอย่างมากทั้งในแง่การสร้างแบรนด์และในมุมของธุรกิจ แต่สิ่งที่ THE STANDARD สนใจคือ อะไรคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ไทยสามารถชนะเวทีระดับโลกในปีนี้ได้

 

 

Brand Finance องค์กรอิสระที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินค่าธุรกิจที่เชื่อมโยงปัจจัยทางด้านการตลาดและการเงินผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ทดสอบ และวัดผลจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 23 ปี สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนวัดจากดัชนีความแข็งแกร่งของแบรนด์ หรือ Brand Strength Index (BSI) อยู่ที่ 90/100 คะแนน และยังเป็นแบรนด์ไทยหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่ได้รับ Rating AAA+ โดยประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ (Brand Strength) จากปัจจัยสำคัญ ประกอบด้วย

  • การใช้งบประมาณทางการตลาดที่สมเหตุสมผล และสร้างประโยชน์แก่ลูกค้าอย่างยั่งยืน
  • การบริหารจัดการผลประโยชน์ให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความสามารถในการบริหารจัดการองค์กร ทั้งในแง่การลงทุน การสร้างรายได้ และผลประกอบการ รวมถึงผลตอบแทนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
  • ที่สำคัญคือสามารถขยายธุรกิจจาก Mobile ไปสู่ Fixed Broadband ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ และสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

 

“นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะบริษัทเอกชนผู้ให้บริการโทรคมนาคมไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับการจัดอันดับจาก Brand Finance ให้เป็น แบรนด์โทรคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก อันดับ 1 (World’s Strongest Telecoms Brand) การได้รับการจัดอันดับครั้งนี้ถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และเป็นกำลังใจในการพัฒนาองค์กรให้แข็งแกร่ง พร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดจาก Digital Disruption อย่างต่อเนื่อง โดยเรายืนยันว่าบุคลากรทุกคนจะยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อลูกค้า และแม้จะเป็นผู้นำ แต่ก็จะไม่หยุดพัฒนาขีดความสามารถ พร้อมเพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่ๆ รวมถึงลงทุนและนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาประยุกต์ใช้เสมอ เพราะนอกจากจะเป็นการพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแล้วยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมด้วย โดยรางวัลดังกล่าวมิใช่เพื่อ AIS เท่านั้น แต่เป็นรางวัลในนามประเทศไทยที่ปักหมุดสร้างชื่อเสียงในเวทีโลก และเป็นบทพิสูจน์ถึงขีดความสามารถของภาคเอกชนไทยที่พร้อมเป็นกำลังหลักในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภาพใหญ่ของประเทศต่อไป” สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

AIS ถือเป็นแบรนด์ที่ให้บริการคนไทยมานานกว่า 29 ปี เกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จากข้อมูลอาจพอจะให้คำตอบได้ว่าทำไม AIS จึงคว้ารางวัลนี้มาครอง

 

 

แบรนด์ที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน

จากข้อมูลล่าสุด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เปิดผลประกอบการรอบปี 2561 โดยพบว่าบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้ทั้งสิ้น 29,682 ล้านบาท รายได้โดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ครองส่วนแบ่งในเชิงรายได้ตลาดมือถือประเทศไทยสูงสุดที่ 48% ปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้ AIS มีรายได้และกำไรเพิ่มสูงขึ้นเป็นผลจากในช่วงปีที่ผ่านมาที่บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre โดยล่าสุดในไตรมาสแรก ปี 2562 AIS Fibre มีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 795,000 ราย ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ 57 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 64,500 ราย สูงที่สุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ผ่านมา

 

และจากข้อมูลย้อนหลังปี 2012-2018 เป็นต้นมา AIS สามารถสร้างรายได้และกำไรสุทธิแตะเกือบ 3 หมื่นล้านบาทมาโดยตลอด เป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและสามารถชนะคู่แข่งในตลาดเสมอมา นี่คือหนึ่งจุดแข็งที่สำคัญ

 

แบรนด์สร้างสรรค์ที่ท้าทายความเปลี่ยนแปลง

ในตลาดโทรคมนาคมของไทย แม้จะมีผู้เล่นในตลาดการแข่งขันไม่มากเหมือนประเทศอื่นๆ แต่กลยุทธ์ที่จะทำให้แบรนด์ยืนหยัดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จากการคาดการณ์ตัวเลขลูกค้าสำหรับบริการเครือข่ายไม่น่าจะมีการเติบโตและขยายจำนวนไปมากกว่านี้ เนื่องจากจำนวนประชากรไม่ได้เติบโตก้าวกระโดด แต่การรักษาเสถียรภาพไว้คือความท้าทายของยักษ์ใหญ่ และภายใต้การบริหารงานของ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเปลี่ยนองค์กรจากแค่ผู้ให้บริการเครือข่ายขยายเป็นดิจิทัลไลฟ์สไตล์ เพราะจากข้อมูลสินค้าและบริการภายใต้แบรนด์ AIS มีบริการมากมายที่เข้าถึงและเข้าใจลูกค้าทุกช่วงวัย เช่น บริการด้านเครือข่าย สามารถสร้าง AIS NEXT G บริการที่นำเอาความเร็วของ Mobile Data (AIS 4G ADVANCED) มารวมกับความเร็วของ WiFi (AIS SUPER WiFi) ซึ่งทำให้สามารถใช้งานดาต้าได้เร็วสูงสุด 1 Gbps  


บริการด้านอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์อย่าง AIS Fibre บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแท้ 100% และบริการวิดีโอแพลตฟอร์มที่รวมรวมคอนเทนต์และความบันเทิงระดับโลกเอาไว้ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละคร เพลง คาราโอเกะ เล่นเกมผ่าน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านมือถือและที่บ้าน

 

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจบริการด้าน e-Money ที่ AIS ลงมาในสนามนี้ด้วยการพัฒนาบริการระบบ Digital Payment Platform ให้เชื่อมต่อกับระบบ Back Office ของแต่ละธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทุกธุรกิจสามารถมี e-Wallet ในนามแบรนด์ของตัวเองได้ และ Mobile Payment Platform ที่รองรับการชำระเงินของผู้ใช้งาน (End Users) บนแอปพลิเคชัน LINE ขยายโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล ก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง

 

lisa blackpink

 

วิธีคิดการสร้างแบรนด์ของผู้นำตลาด

สำหรับในแง่การสื่อสาร เราเห็น AIS สร้างความน่าสนใจเสมอมาจากหลายๆ แคมเปญที่แบรนด์ปล่อยออกมาเพื่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ และล่าสุดกับการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ที่สร้างความฮือฮา นั่นคือการคว้าตัว ลิซ่า BLACKPINK มาเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสารการเป็นอันดับหนึ่ง ภาพของแบรนด์กับพรีเซนเตอร์นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่กะพริบตาไม่ได้ ก่อนหน้านี้เราเห็นการคว้าสองหนุ่มอย่าง เป๊ก ผลิตโชค และแบมแบม GOT7 มาจับคู่เขย่าฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับของทั้งสองให้มาติดตามและส่งต่อให้แบรนด์สร้างแคมเปญขึ้นอันดับหนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์โลกมาแล้ว หรือจะเป็นการกินหัวหาดของพื้นที่ในโลกออนไลน์ที่นับว่าชนะยืนหนึ่งเมื่อครั้งกระแสของละคร บุพเพสันนิวาส ฮิตถล่มทลายกับคลิปไวรัลตอนพิเศษ แม่การะเกดกินหมูกระทะ และสัญญาณที่แรงข้ามภาพข้ามชาติ AIS ก็ช่วงชิงพื้นที่ด้วยการสร้างการสื่อสารแบบใหม่ที่เรียกว่า Co-creation มาครอง และจากข้อมูล AIS ถือว่าใช้งบประมาณในการทำตลาดน้อยกว่าคู่แข่งอยู่มาก แต่สามารถสร้างแบรนด์และการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

 

ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงการให้ข้อมูลเพื่อให้คุณได้ลองหาคำตอบด้วยตัวเองว่าทำไม AIS จึงเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกสาขาโทรคมนาคมในปีนี้ นอกจากในมุมธุรกิจ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำหรับคนไทยที่จะสามารถแสดงศักยภาพในเวทีธุรกิจโลกได้

 

จับตาดูกันต่อว่าแบรนด์สีเขียวอย่าง AIS จะทะยานในทิศทางใดต่อไปในมหาสมุทรแห่งเทคโนโลยีและธุรกิจการสื่อสาร

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising