การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าจำนวนเครื่องบินจะไม่เพียงพอต่อการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนจากคำสั่งซื้อเครื่องบินมายังบริษัทอย่าง Boeing Co. และ Airbus SE จำนวนหลายร้อยคำสั่งซื้อ แต่ทั้งสองบริษัทอาจจะไม่สามารถส่งมอบเครื่องบินได้แบบปัจจุบันทันด่วน เนื่องจากปัญหาติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ Jefferies LLC คาดการณ์ว่ามีคำสั่งซื้อเครื่องบินตกค้างอยู่ราว 12,720 ลำในเวลานี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ยิ่งขาดทุนยิ่งต้องลงทุน! เปิดเหตุผล ‘เซอร์ ทิม คลาร์ก’ จากพนักงานเช็กอินสู่ประธานสายการบิน ผู้พา ‘Emirates’ เสิร์ฟคาเวียร์ไม่อั้นในวันเปิดประเทศ
- โจทย์ยาก ‘การบินไทย’ ฟื้นฟูกิจการ ฝ่าหลุมอากาศใหญ่ หากยังหาแหล่งทุนใหม่ไม่ได้
- ผู้คนกำลังออกเดินทางท่องเที่ยว แต่สายการบินกลับเจอปัญหา Boeing และ Airbus ผลิตเครื่องบินลำใหม่ไม่ทัน
เมื่อจำนวนเครื่องบินไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ค่าตั๋วโดยสารของสายการบินต่างๆ จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป และอาจจะยิ่งแพงขึ้นได้อีก
“ผู้คนต่างเคยชินกับค่าตั๋วราคาถูกตลอดช่วงโควิดระบาดที่ผ่านมา ขณะที่การเปิดประเทศของจีนจะยิ่งทำให้ค่าตั๋วแพงขึ้นอีก” Ajay Awtaney ผู้ก่อตั้ง LiveFromALounge.com กล่าว “มันไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องบินขาดแคลน แต่ยังมีปัจจัยอื่นเข้ามากระทบด้วย อย่างเรื่องของราคาน้ำมัน”
Airbus หนึ่งในสองบริษัทผู้ผูกขาดการผลิตเครื่องบินของโลกเปิดเผยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ปริมาณการส่งมอบเครื่องบินในปีนี้น่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 700 ลำ เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น
ด้าน Steven Udvar-Hazy ผู้ก่อตั้ง Air Lease Corp. กล่าวว่า “เราไม่สามารถรับมอบเครื่องบินตามเวลาที่ตกลงไว้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 737 Max, 787, A330 หรือ A350 และที่ล่าช้าอย่างมากคือรุ่น A321neo การส่งมอบล่าช้าไปถึง 6-7 เดือน หนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือการขาดแคลนแรงงาน”
การส่งมอบเครื่องบินที่ล่าช้าทำให้สายการบินแต่ละแห่งลังเลที่จะส่งคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา อย่างกรณีของ Airbus ที่มีคำสั่งซื้อค้างอยู่ในมือถึง 6,100 ลำ ซึ่งจะต้องใช้เวลาถึง 8 ปีเพื่อส่งมอบทั้งหมด
Ken Herbert นักกลยุทธ์ของ RBC กล่าวว่า Boeing ซึ่งได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินเข้ามา 850 ลำในปีนี้ เผชิญกับปัญหาห่วงโซ่อุปทานเช่นกัน
ขณะที่ George Ferguson นักกลยุทธ์ของ Bloomberg Intelligence กล่าวว่า “คำสั่งซื้อในมือขณะนี้มากพอที่จะทำให้บริษัทไม่ต้องกังวลเรื่องของ Recession”
อ้างอิง:
