×

Adidas เปิดตัวรองเท้าวิ่ง Adizero Adios Pro พร้อมกัน 3 รุ่น คู่ไหนเหมาะกับใคร?

16.06.2021
  • LOADING...
Adidas Adizero Adios Pro

หลัง Adidas เปิดตัวรองเท้าวิ่ง Adizero Adios Pro เมื่อปีที่ผ่านมา และสองนักวิ่งที่สวมใส่รองเท้าวิ่งตระกูลนี้ลงแข่งขันอย่าง เปเรส เจปเชียร์เชียร์ และ คิบิวอตต์ แคนดี สามารถสร้างสถิติโลกใหม่ได้จากการสวมใส่รองเท้าวิ่งตระกูลนี้ ก็ทำให้ชื่อของ Adizero Adios Pro เนื้อหอมขึ้นมาทันทีในสายตานักวิ่ง และบัดนี้ได้เวลาที่พวกเขาจะเปิดตัวรองเท้าวิ่งในตระกูล Adizero Adios Pro ที่มาพร้อมกันทีเดียวถึง 3 รุ่น แน่นอนว่าแม้การออกแบบจะมีความโฉบเฉี่ยวในโทนสีขาวและส้มสดที่คล้ายคลึงกัน แต่หากได้ลองสวมใส่แล้วจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการวิ่งที่แตกต่าง และจับได้ถึงคาแรกเตอร์ของรองเท้าแต่ละรุ่นที่ไม่เหมือนกัน  

 

เปเรส เจปเชียร์เชียร์

 

คิบิวอตต์ แคนดี 

 

เริ่มจากตัวแรก น้องเล็ก Adizero Boston 10 (ราคา 4,800 บาท) รุ่นนี้เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับ สามารถใช้ฝึกซ้อมวิ่งได้ทุกวัน ไม่ว่าจะวิ่งเพื่อสุขภาพหรือซ้อมวิ่งเพื่อชิงชัยในสนามแข่งขัน มีทั้งพื้นรองเท้า Lightstrike Pro และ Lightstrike Eva เพื่อความทนทาน รวมถึงแท่งคาร์บอน Energyrods เสริมแรงเด้ง ตัวรองเท้าใส่แล้วค่อนข้างนุ่มสบายเท้า พื้นรองเท้าชั้นนอกมี Continental™ Rubber ที่ให้มาเกือบเต็มแผ่น เพื่อให้ทนต่อการซ้อมวิ่งระยะไกลเป็นประจำ 

 

Adizero Boston 10 

 

ถัดมา ได้แก่ Adizero Adios Pro 2 (ราคา 7,000 บาท) รองเท้าวิ่งสำหรับวันแข่ง เหมาะกับนักวิ่งระดับอีลิตหรือนักวิ่งที่ต้องการทำเวลาในการแข่งให้ดียิ่งขึ้น รุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเบาที่กว่ารุ่นก่อน พื้นรองเท้าให้ Lightstrike Pro มา 2 ชั้น เพื่อเสริมเรื่องการคืนพลัง ภายในมี Energyrods ทำหน้าที่เสริมแรงดีดกลับและลดการสูญเสียพลังงานขณะวิ่ง ตัวรองเท้าใช้ Celermesh 2.0 วัสดุรีไซเคิลน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นดี และระบายอากาศสูง ส่วนพื้นรองเท้าด้านนอกใช้ Continental™ Rubber บริเวณปลายเท้าเพื่อช่วยเรื่องการยึดเกาะเมื่อต้องเร่งความเร็ว

 

Adizero Adios Pro 2

Adizero Adios Pro 2

Adizero Adios Pro 2

 

รุ่นสุดท้าย Adizero Prime X (ราคา 9,000 บาท) เรียกได้ว่าเป็นรุ่นท็อปที่อยู่หัวขบวนของตระกูลนี้มาพร้อมเทคโนโลยีอัดแน่นและจัดเต็มกว่าทุกรุ่น เรียกได้ว่าใส่ทุกอย่างให้มาหมดในคู่เดียว พื้นรองเท้า Lightstrike Pro มีความหนาถึง 50 มิลลิเมตร ส่วนภายในรองเท้าก็มีทั้ง Energyrod และใบมีด 3 แผ่น ช่วยเสริมแรงดีดกลับได้มากขึ้น รองเท้าคู่นี้เหมาะกับนักวิ่งระดับอีลิตและนักวิ่งมือเก๋าที่ซ้อมวิ่งเป็นประจำ จนมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง เพราะตัวรองเท้าถือว่าแรงพอตัว คนที่จะสวมใส่ได้ต้องแกร่งพอๆ กับรองเท้า

 

Adizero Prime X

Adizero Prime X 

 

ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน: เราค่อนข้างเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของรองเท้าแต่ละรุ่น ถ้าคุณเป็นนักวิ่งหน้าใหม่หรือไม่ได้จริงจังกับการวิ่งถึงขั้นต้องทำเวลาให้ได้ดีที่สุดเสมอ ลำพัง Boston 10 ก็ตอบโจทย์แล้ว แต่ถ้าจริงจังขึ้นมาหน่อย อยากวิ่งได้เวลาดีๆ ในการแข่งขัน ตัว Pro 2 ที่เป็นรองเท้าแข่งจะทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่า แต่สำหรับ Adizero Prime X โดยส่วนตัวมองเป็นรองเท้านวัตกรรมที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้ Adidas มากกว่าที่จะให้คนหมู่มากสวมใส่ แต่ถ้าคุณอยากลองและคิดว่าเอาอยู่ทั้งราคาและความแรงของมัน การซื้อเก็บไว้ก็ไม่เสียหายอะไร   

 

รองเท้าทั้ง 3 รุ่น จะวางจำหน่ายในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ สำหรับรุ่น Adizero Boston 10 และวันที่ 18 มิถุนายน สำหรับ Adizero Adios Pro 2 และ Adizero Prime X

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising