วันนี้ (23 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีคดีตากใบซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ หากจับผู้ต้องหาไม่ได้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ว่า หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยปฏิบัติตามข้อกฎหมายทุกประการ เราติดตามและพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการมากที่สุด
“ขอให้มองไปข้างหน้า อย่ามองไปข้างหลัง เขามีสุภาษิตว่าโกรธ 10 ครั้ง ไม่เท่าให้อภัยครั้งเดียว ดังนั้นถ้าเราไปโกรธ เราไปเคียดแค้น คิดถึงแต่อดีต ก็มีแต่ก่อให้เกิดการถดถอย แต่ถ้าให้อภัย นึกถึงอนาคต จำบทเรียนในอดีต อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเป็นอันขาด น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี และจะเกิดความสงบเดินหน้าต่อได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวต่อไปว่า คนที่หลบหนีมาโดยตลอดและต้องหลบอยู่ต่อไป แม้จะพ้นอายุความแล้วก็คงจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนที่หลบหนีคดีอย่างไรก็ไม่มีความสุข เหมือนเขาถูกลงโทษอย่างหนักหนามาก ทั้งสภาพจิตใจ ความกดดันต่างๆ ไม่ใช่ว่าเขามีความสุขสบายหรือไม่ต้องรับโทษอะไรเลย เพราะยังมีโทษทางสังคมและเรื่องความรู้สึกของพี่น้องประชาชนต่อผู้ที่มีโทษอยู่
อนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามเกี่ยวกับดินเนอร์ของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีขอให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยช่วยประสานกับวุฒิสภา เพื่อช่วยผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายนิรโทษกรรม
โดยอนุทินเผยว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ในวันดังกล่าว รวมทั้งไม่ได้พูดถึงการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ส่วนใหญ่จะพูดคุยเรื่องการทำงานให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการนำไปสู่ความไม่เข้าใจกัน