×

‘ไม่ว่าใครก็ควรได้รับโอกาสที่เท่ากัน’ สัมภาษณ์ 4 นักแสดงนำจาก Good Doctor หมอใจพิเศษ เวอร์ชันไทย ออนแอร์ทาง TrueID [ADVERTORIAL]

01.11.2024
  • LOADING...
Good Doctor

HIGHLIGHTS

3 min read
  • แม้ว่า Good Doctor จะรีเมกไปแล้วถึง 4 เวอร์ชัน แต่ในเวอร์ชันไทย Good Doctor หมอใจพิเศษ ยังมีเสน่ห์และความพิเศษที่ไม่เหมือนกับเวอร์ชันไหนทั้งเรื่องราวที่น่าติดตามและชวนตั้งคำถามถึงโอกาสที่เท่าเทียมในสังคม
  • ความอบอุ่นในซีรีส์ Good Doctor หมอใจพิเศษ ถ่ายทอดผ่านความสุข ความเศร้า เสียงหัวเราะ และเต็มไปด้วยความท้าทายที่แต่ละตัวละครต้องเผชิญ โดยมีทีมแพทย์ให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การเขียนบท การถ่ายทำ และการตัดต่อ เพื่อให้ถ่ายทอดออกมาได้สมบทบาทมากที่สุด
  • Good Doctor หมอใจพิเศษ ถ่ายทอด ‘ความเป็นมนุษย์’ ของหมอ และตีแผ่สังคมในโรงพยาบาลในบริบทของไทยได้อย่างลึกซึ้ง
  • TrueID ยก Good Doctor หมอใจพิเศษ ให้เป็นซีรีส์กระแสแรงอันดับหนึ่งบน TrueID เปิดให้รับชมฟรีที่เดียวทาง TrueID

Good Doctor ซีรีส์ดังจากเกาหลีใต้ที่ดูกี่ทีก็อบอุ่นหัวใจ นำมารีเมกในหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น และอเมริกา ล่าสุด TrueID ร่วมมือกับ True CJ Creations ภายใต้การกำกับของ มณฑล อารยางกูร พร้อมนำเสนอในเวอร์ชันไทยด้วยชื่อ Good Doctor หมอใจพิเศษ 

 

โดย Good Doctor เวอร์ชันไทย เล่าเรื่องราวของ ‘โฌน’ (เน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล) ชายหนุ่มออทิสติกผู้มีความฝันอยากเป็นศัลยแพทย์ กำลังก้าวสู่การทำงานในโรงพยาบาล ภายใต้การสนับสนุนของ ‘หมอประภาส’ (ดู๋-สัญญา คุณากร) หัวหน้าแผนกศัลยกรรมผู้มีความผูกพันกับโฌนตั้งแต่เด็ก โฌนต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก ทั้งในเรื่องการเข้าสังคมและการต่อสู้กับอคติจากเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะ ‘หมออาชวินทร์’ (โทนี่ รากแก่น) ที่ไม่เชื่อมั่นในความสามารถของเขา ท่ามกลางความท้าทายนี้ โฌนพบกับ ‘พรีม’ (แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) รุ่นพี่แพทย์ประจำบ้านที่พร้อมจะเปิดใจและให้โอกาสโฌนแสดงความสามารถในการรักษาชีวิตผู้ป่วย 

 

ล่าสุด THE STANDARD POP มีโอกาสสัมภาษณ์นักแสดงนำทั้ง 4 คน ถึงความท้าทาย บรรยากาศในการถ่ายทำ สิ่งที่ได้เรียนรู้และอยากบอกต่อกับสังคม ผ่านการเป็นนักแสดง Good Doctor หมอใจพิเศษ ในครั้งนี้

 

ความท้าทายในการเล่นบทนี้

 

เน๋ง: บท ‘โฌน’ แตกต่างจากตัวเน๋งมาก ทำให้ต้องทำการบ้านค่อนข้างหนัก ถึงแม้เน๋งจะเป็นสัตวแพทย์ พอมีความรู้ด้านเครื่องมือและศัพท์ทางการแพทย์อยู่บ้าง แต่การเป็นหมอที่รักษามนุษย์ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ 

 

สำหรับการเป็นโฌน เน๋งได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิออทิสติกไทย เข้าไปพูดคุยกับน้องๆ ผู้มีภาวะออทิสติก ทำให้เข้าใจและเรียนรู้มุมมองของผู้มีภาวะออทิสติกมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับแอ็กติ้งโค้ชเพื่อปูภูมิหลังและพัฒนาคาแรกเตอร์โฌนให้มีมิติมากยิ่งขึ้น

 

 

ดู๋: พวกเรา 4 คน ไม่เคยเป็นหมอ ยกเว้นเน๋งเป็นสัตวแพทย์ เพราะฉะนั้นความท้าทายคือการสวมบทบาทเป็นหมอ ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ในอาชีพนี้

 

สำหรับคาแรกเตอร์ ‘หมอประภาส’ จะเป็นคนที่ค่อนข้างเผด็จการ ถ้าเปรียบโรงพยาบาลเหมือนเมือง หมอประภาสก็จะเหมือนมาเฟียที่เมื่อเขาต้องการอะไร ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องเป็นไปตามที่เขาคาดหวังเสมอ

 

 

โทนี่: เป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นเป็นหมอ (เรื่อง หมอตลอดกาล ถ่ายทีหลัง) ความท้าทายมี 2 ส่วน คือ การเป็นอาชีพหมอ ต้องเรียนรู้ศัพท์ทางการแพทย์เยอะมากๆ และการเป็นคาแรกเตอร์ ‘หมออาชวินทร์’ ซึ่งในเรื่องจะดุมาก ผู้ชมอาจจะหมั่นไส้ แต่ในความจริงแล้วคาแรกเตอร์นี้ไม่ได้ดุแบบแบนๆ มีเบื้องลึกเบื้องหลังและมีเหตุผลของการกระทำ

 

Good Doctor

 

แพต: คงเป็นเรื่องของการจำศัพท์ทางการแพทย์และการใช้เครื่องมือให้สมจริงมากที่สุด เพราะเราไม่ใช่หมอจริงๆ บางทีแพตใช้เวลาจำชื่อเครื่องมือ 3 วัน พอถ่ายจริง หมอที่ปรึกษาบอกว่าผิด ต้องจำใหม่หมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และเห็นว่าหมอที่ปรึกษาเขาเป๊ะมากจริงๆ

 

 

ฉากที่ประทับใจที่สุด

 

เน๋ง: ชอบทุกฉากที่ต้องเข้าห้องผ่าตัด เพราะจะได้เห็นในมุมที่คนดูทางบ้านอาจจะไม่เห็น ได้สัมผัสบรรยากาศของหมอจริงๆ ที่มีทั้งเคสสบายๆ และเคสที่กดดัน

 

แพต: สนุกและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เข้าฉากห้องผ่าตัด เพราะได้ลองใช้เครื่องมือจริงๆ ได้แสดงเหมือนว่าลงมือทำจริง แม้ว่าจะไม่ได้ทำจริงก็ตาม

 

โทนี่: ชอบฉากเปิดของซีรีส์มากที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้แสดงอยู่ในฉากเปิดเลยก็ตาม เป็นฉากที่โฌนช่วยชีวิตเด็กบนรถเมล์ที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ หาอุปกรณ์จากคนแถวนั้นมาช่วย มันเข้ากับบริบทไทยมาก พอได้ดูแล้วรู้สึกตื่นเต้น โฌนมีเสน่ห์มากๆ อยากจะเอาใจช่วยเขาไปตลอดทั้งเรื่อง

 

ดู๋: ฉากที่หมอประภาสนำเสนอโฌนเพื่อขออนุมัติให้เข้าเป็นหมอในโรงพยาบาลนี้ เป็นฉากในห้องประชุมที่หมอทุกคนต้องร่วมโหวตแสดงความคิดเห็น เราจะได้เห็นความเป็นมนุษย์และความหลากหลายทางความคิดที่สะท้อนออกมา แม้ว่าจะมีทั้งหมอที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการรักษาคนไข้ให้หาย 

 

สิ่งที่ได้เรียนรู้และอยากบอกต่อกับสังคม

 

เน๋ง: โฌนเป็นคนที่ได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองว่าจะเป็นหมอได้หรือไม่ แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าทุกคนในสังคมไทยได้รับโอกาสแบบโฌนไหม 

 

ความแตกต่างเป็นเรื่องปกติในทุกสังคม แต่สิ่งที่ทุกคนควรจะได้รับเท่ากันคือ ‘โอกาส’ ไม่ว่าคุณจะมีภาวะออทิสติก ทุพพลภาพ หรือเป็นผู้พิการ ก็ควรที่จะได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียม และเรื่องหลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไร

 

โทนี่: เรื่องนี้ถ่ายทอดสังคมในโรงพยาบาลที่มีความเป็นมนุษย์สูงมาก ชี้ให้เห็นจริงๆ ว่าการเป็นหมอต้องเจออะไรแบบนี้แน่ๆ

 

แพต: มีหมอที่ปรึกษาบอกแพตว่า ‘หมอไม่ใช่พระเจ้า’ เรื่องนี้แพตได้เรียนรู้ว่าหมอเป็นมนุษย์ทั่วไป มีอารมณ์ดีใจ เสียใจ โกรธ เป็นเรื่องปกติ

 

ดู๋: ทุกอาชีพมีคุณค่าในตัวเองและมีหน้าที่ต่างกัน อาชีพหมอเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีทั้งความสุข ความเศร้า เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะหมอต้องเผชิญกับความท้าทายและเรื่องวุ่นวายในโรงพยาบาล ทั้งการรับมือกับคนไข้ที่หลากหลาย ชีวิต และความตาย หวังว่าเรื่องนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ อยากเป็นหมอมากขึ้น

 

 

ท้ายที่สุด นักแสดงทั้ง 4 คน ฝากถึงผู้ชมว่า แม้จะมีการเปรียบเทียบกับเวอร์ชันต่างประเทศมากมาย แต่ขอให้ผู้ชม ‘เปิดใจ’ และลองชม Good Doctor หมอใจพิเศษ เพราะซีรีส์ไทยเรื่องนี้เต็มไปด้วยความตั้งใจจากทั้งนักแสดง ผู้กำกับ และทีมงานที่ทุ่มเทในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีทีมแพทย์ที่ให้คำปรึกษาตั้งแต่การเขียนบท มาออกกองถ่ายด้วยกัน และช่วยดูภาพรวมในการตัดต่อให้สมจริงมากขึ้น

 

และอีกหนึ่งความพิเศษในเรื่องนี้คือการปรับเนื้อหาบางส่วนให้เข้ากับบริบทไทย เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสกับเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร และยังมีหมอจริงๆ ให้เกียรติมาร่วมแสดงเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์นี้ด้วย

 

ชมความอบอุ่นและร่วมตั้งคำถามถึงโอกาสที่เท่าเทียมในสังคมใน Good Doctor หมอใจพิเศษ ไปพร้อมกันผ่านทาง TrueID

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X