วันนี้ (2 ตุลาคม) ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงต่อมวลชนหลังการประชุมประสานภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการต่อกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี ว่าตอนนี้นักเรียนที่บาดเจ็บดีขึ้นแล้ว ยังเหลือนักเรียนอีก 2 รายที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนครูที่บาดเจ็บ 3 รายกลับบ้านได้แล้วเช่นกัน ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ปกครองก็มารับกลับไป 35 ราย และอีกบางส่วนกระทรวงคมนาคมจัดรถพาส่งกลับบ้าน
ส่วนที่เห็นบางคนยิ้มแย้มนั้นก็เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเรียนและครูที่ประสบเหตุนี้ เราจึงพยายามยิ้มและดึงจิตเขากลับมา พร้อมหากิจกรรมให้เด็กไม่ขวัญเสีย ทั้งที่ความจริงปวดร้าวกันมาก ในส่วนของจังหวัดอุทัยธานีก็มีผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีมาดำเนินการและอำนวยความสะดวกด้วย ในส่วนของ สพฐ. จะดูแลในส่วนสิทธิประโยชน์ของครูที่เสียชีวิต ดูแลในเรื่องเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ โดยทั้งเรื่องทำศพและค่าดูแลบุพการีด้วย พร้อมสั่งการให้ สพฐ. รับบริจาคเงินที่อยากจะช่วยเยียวยาต่อไป
ส่วนมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการนั้น พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า ได้สั่งการงดทัศนศึกษาที่ไม่จำเป็นโดยมีผลทันที ทั้งนี้ หากเห็นว่าการทัศนศึกษายังจำเป็น ให้ไปพิจารณาว่ายานพาหนะที่ใช้ในการสัญจรเป็นอย่างไร เด็กที่จะไปต้องแบ่งเด็กเล็กและเด็กโต ในส่วนของเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จะต้องมีผู้ปกครองเดินทางไปด้วย ให้งดออกนอกจังหวัด ให้พิจารณาเลือกสถานที่ที่อยู่ใกล้โรงเรียน
พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวย้ำว่า การทัศนศึกษายังเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ หากมีการสั่งห้ามเลยอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ ดังคำกล่าวที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” ดังนั้นขอให้ประสานไปยังกรมการขนส่งทางบกช่วยตรวจสภาพรถว่ามีความพร้อมหรือไม่ รวมถึงต้องมีการซักซ้อมการเคลื่อนย้ายกรณีที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีการสั่งการไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในวันนี้มาย้ำกันอีกครั้ง โดยเชื่อว่าจะสามารถช่วยยับยั้งไม่ให้เหตุเกิดขึ้นได้อีก
พล.ต.อ. เพิ่มพูน ยืนยันว่า ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วจึงต้องหาทางป้องกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การสั่งงดทัศนศึกษามีกรอบระยะเวลาหรือไม่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า สั่งงดทัศนศึกษาที่ไม่จำเป็นโดยไม่มีกรอบระยะเวลาว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าจำเป็นและเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาก็ต้องมีมาตรการ รวมถึงต้องมีการวางแผนการเดินทางอย่างดี อย่าให้เด็กเหนื่อย และต้องไปอย่างมีความสุข โดยผู้อำนวยการของโรงเรียนจะต้องเป็นผู้กำกับดูแล ทั้งซ้อมแผน รวมถึงมีการตรวจสอบรถ ตรวจสอบเส้นทาง การประชุมในวันนี้สั่งการไปยังทุกหน่วยไม่ใช่เพียงแค่โรงเรียนเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า โรงเรียนมีเหตุบกพร่องที่อาจก่อให้เกิดเหตุดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า เป็นเรื่องของอีกขั้นตอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา ขออย่าเพิ่งรื้อฟื้น ขณะนี้ทุกคนเสียใจ อย่าเพิ่งโทษใคร ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคุณครู นักการภารโรง หรือเด็กๆ ที่ไป ล้วนทำอย่างเต็มความสามารถ ในวันนี้อยากให้ลืมให้หมด เด็กๆ และคุณครูทุกคนเสียใจ
เมื่อถามว่าการงดทัศนศึกษาครั้งนี้จะรวมถึงการเข้าค่ายลูกเสือด้วยหรือไม่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว การดำเนินการเข้าค่ายลูกเสือยังเป็นเรื่องที่จำเป็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของเด็กเล็กนั้นเล็กเกินไปที่จะทัศนศึกษาหรือไม่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า จึงขอให้พิจารณาทัศนศึกษาในพื้นที่ใกล้ก่อน ทั้งนี้ ขอให้เราช่วยกันบรรเทาความเสียหาย ขออย่าซ้ำเติม อาจจะมีการสูญเสียเพิ่มเติม
“ผมเชื่อว่าทุกคนปรารถนาดี คนเราสามารถทำผิดพลาดได้ ขอให้แก้ไขกัน และต้องเข้มแข็งที่จะดูแลเด็กๆ ต้องให้กำลังใจกัน ไม่ซ้ำเติมใคร ไม่โทษใคร หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องพิสูจน์พยานหลักฐาน ใครทำผิดอะไรก็ต้องถูกดำเนินการไปตามกระบวนการ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะต้องมีการเสริมทักษะให้กับเด็กๆ เพื่อเอาตัวรอดหรือไม่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า ในระยะสั้นจะต้องมีมาตรการในการเอาตัวรอดไม่ใช่แค่ในรถ ซึ่งเน้นย้ำไปยังโรงเรียนด้วย เช่น หากมีคนร้ายเข้าไปในโรงเรียนจะต้องดำเนินการอย่างไร เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้-น้ำท่วมจะต้องดำเนินการอย่างไร ต่อจากนี้ไปจะต้องมีการซักซ้อมแผน ส่วนแผนระยะยาวนั้นมอบหมายให้ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับหน่วยงานการศึกษาทั้งหมด ร่วมกันพิจารณาว่าจะต้องทำอย่างไรให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กระแสต้องการให้ยกเลิกการทัศนศึกษานั้น พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า สิ่งที่ไม่จำเป็นเราจะงด แต่สิ่งที่จำเป็นเราปิดโลกไม่ได้ อยู่แต่บ้านเฉยๆ ไม่เกิดประโยชน์ การทัศนศึกษาหากจำเป็นเราก็ต้องไป เช่น ทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ จึงจะได้เห็นถึงสตอรีของประวัติศาสตร์ว่าเป็นอย่างไร หรือการทัศนศึกษาที่ท้องฟ้าจำลองก็เช่นกัน หากอยู่บ้านจะเห็นดวงดาวได้อย่างไร ซึ่งก็มีการกำชับไปแล้วว่า การขับรถปริมาณความเร็วต้องเป็นไปตามกฎหมาย ขอความร่วมมือไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อตรวจสภาพรถ และขอความร่วมมือรถที่จะจัดไปทัศนศึกษาต้องเป็นรถใหม่อายุไม่เกิน 5-10 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องห้ามติดแก๊สด้วยหรือไม่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ขนส่งว่าจะติดหรือไม่ติด เราไม่สามารถระบุได้ แม้จะเป็นเครื่องเบนซิน รถไฟฟ้า รถแก๊ส รถน้ำมัน หากเป็นรถที่เก่าและมีการรั่วไหลของเชื้อเพลิงล้วนอันตรายด้วยกันทั้งสิ้น
