ช่วงเช้าวันนี้ (30 กันยายน) เงินบาท แข็งค่าทะลุ 32.27 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ด้าน Krungthai GLOBAL MARKETS มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 32.00-32.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนว่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าทะลุระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลายประเทศในภูมิภาคในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ พบว่าบาทแข็งค่าเกือบ 12% เป็นรองเพียงริงกิตมาเลเซียเท่านั้น
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทโดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แต่ก็มีจังหวะแข็งค่าขึ้นจนทะลุโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (แกว่งตัวในกรอบ 32.27-32.42 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ตามจังหวะการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐที่มาพร้อมการปรับตัวขึ้นบ้างของราคาทองคำ หลังอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม ชะลอตัวลงต่อเนื่องและออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความหวังต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
อย่างไรก็ดี พูนมองว่าเงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์สหรัฐทยอยแข็งค่าขึ้นตามบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลงราว -20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตามแรงขายทำกำไรและจังหวะการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนแรงอยู่ อีกทั้งผู้เล่นในตลาดต่างคงคาดหวังว่า Fed จะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท Krungthai GLOBAL MARKETS มองว่าโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์สหรัฐรีบาวด์ขึ้นจริง ส่วนนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทยตามคาด ทว่าเงินบาทก็อาจยังได้แรงหนุน ตราบใดที่ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้ ทั้งนี้เราขอย้ำว่า ในเชิง Valuation เงินบาทนั้นอยู่ในโซน Overvalued มากขึ้น
Krungthai GLOBAL MARKETS มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 32.00-32.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
“เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม เช่น Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward” พูนกล่าว
ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล