ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น หลังจากอิสราเอลเผยว่ากองทัพได้โจมตีฐานที่ตั้งใหญ่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเบรุตตอนใต้ ส่งผลให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น การปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังอิสราเอลให้คำมั่นว่าจะโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งบั่นทอนความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่อาจช่วยบรรเทาความเสี่ยงของสงครามในภูมิภาคได้
Najib Mikati นายกรัฐมนตรีรักษาการของเลบานอน กล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าอิสราเอลไม่สนใจความพยายามในการยุติการสู้รบ และสถานทูตอิหร่านในกรุงเบรุตกล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้เป็น “การยกระดับที่อันตราย”
ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่ออุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate พุ่งขึ้นเกือบ 1% และทำราคาปิดที่ระดับ 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์พุ่งขึ้นปิดตลาดที่ระดับเกือบ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันทั้งสองยังคงลดลงในรายสัปดาห์ ท่ามกลางแนวโน้มอุปทานจากซาอุดีอาระเบียและลิเบียที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ความขัดแย้งดังกล่าวช่วยลดผลกระทบเชิงลบจากรายงานที่ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมัน ขณะที่ลิเบียได้ตกลงที่จะแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขข้อพิพาทที่ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง
Rebecca Babin ผู้ค้าพลังงานอาวุโสจาก CIBC Private Wealth กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของจีนยังคงถูกมองข้าม และตลาดก็ให้ความสำคัญกับผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นมากกว่า โดยอุปสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้น่าจะต้องใช้เวลานานกว่าที่จะเกิดขึ้นจริง
ขณะเดียวกันพายุโซนร้อนเฮเลนกำลังทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมทั่วภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 21 ราย และทำให้ผู้คนมากกว่า 4 ล้านรายไม่มีไฟฟ้าใช้ ตลอดจนทำให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกในปัจจุบันลดลงประมาณ 29% และก๊าซธรรมชาติลดลง 17% สิ่งนี้อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อไปในระยะสั้น
อ้างอิง:
