ชาวอเมริกันกว่า 40% ใช้ช่องทาง TikTok เสพข่าวมากขึ้น รัฐบาลชี้ อาจมีผลต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมขีดเส้นตายให้ ByteDance บริษัทแม่สัญชาติจีน ขายหุ้น TikTok ในเดือนมกราคมนี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แพลตฟอร์ม TikTok กลายเป็นช่องทางที่ชาวอเมริกันตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ใช้ติดตามข่าวสารมากขึ้น เพราะ TikTok เป็นพื้นที่ให้เข้าร่วมถกเถียงทางการเมืองผ่านคลิปวิดีโอได้เป็นอย่างดี
Pew Research สำรวจจากชาวอเมริกันมากกว่า 10,650 คน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม พบว่า ชาวอเมริกันอายุไม่เกิน 30 ปี มีแนวโน้มติดตามข่าวจาก TikTok มากขึ้น โดยปัจจุบันมี 39% ของผู้ใหญ่ในกลุ่มนี้บอกว่าพวกเขาได้รับข่าวจาก TikTok เป็นประจำ และอีก 50% ใช้แอปติดตามข่าวสารด้านการเมือง และส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแบน TikTok
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แสดงให้เห็นว่าการเสพข่าวใน TikTok เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถือว่ามากกว่าช่องทาง Facebook จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า แนวโน้มการเสพข่าวบนแอปที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจมีผลต่อความมั่นคงของชาติ
และเมื่อไม่นานมานี้สมาชิกสภาผู้แทนสหรัฐฯ พยายามแบน TikTok เพราะกังวลว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ในจีนจะนำข้อมูลผู้ใช้งานไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม หรืออาจพยายามสร้างอิทธิพลด้านการเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนผ่านฟีดของแอป
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ByteDance บริษัทแม่ TikTok ในจีน ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อขัดขวางกฎหมายที่ลงนามบังคับใช้โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok ให้บริษัทอเมริกัน กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 กันยายน) มีการไต่สวนในชั้นศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ โดยรัฐบาลย้ำถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ
อย่างไรก็ตาม Matthew Schettenhelm นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าวว่า การไต่สวนครั้งนี้ไม่เป็นผลดีต่อ TikTok และตัดโอกาสในการถูกแบนลง เพราะรัฐบาลได้กำหนดเส้นตายเอาไว้ถึงเดือนมกราคม 2025 โดยให้เวลา ByteDance เลือกว่าจะขายหุ้น TikTok หรือไม่
อ้างอิง: