แม็คยีนส์เผย แบรนด์เสื้อผ้าลงมาแข่งในตลาดยีนส์มากขึ้น จึงเร่งเครื่องโฟกัสกลยุทธ์การคอลแลบกับดาราชื่อดัง เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ไม่หยุด ประเดิมด้วยการจับมือกับ อนันดา เอเวอริงแฮม เปิดตัว Mc x Ananda สะท้อนความเชื่อผ่านลายยันต์ไทย ย้ำคอลเล็กชันใหม่นั้นช่วยเพิ่มรายได้จากปกติกว่า 80%
ความร่วมมือดังกล่าว “สะท้อนให้เห็นจากปี 2566 ที่แม็คยีนส์เคยจับมือกับขายหัวเราะ ร่วมกันนำจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาพัฒนาสินค้าผ่านคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนขายหัวเราะชื่อดังกว่า 11 ไอเท็ม ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และตอนนั้นยอดขายก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว” เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC กล่าว
เช่นเดียวกับการเปิดตัวคอลเล็กชัน Mc x Ananda ในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากผลงานระหว่างแม็คยีนส์กับ อนันดา เอเวอริงแฮม ที่ร่วมกันนำแรงบันดาลใจจากลายยันต์ไทยมาสื่อสารความเชื่อจนพัฒนาออกมาเป็นเสื้อเดนิมเชิ้ตทรงโอเวอร์ไซส์ ลิมิเต็ดเอดิชัน ผลิตออกมาวางจำหน่าย 10,000-20,000 ตัว ตอบโจทย์ทั้งชายและหญิง โดยมั่นใจว่าคอลเล็กชัน Mc x Ananda จะช่วยเพิ่มยอดขายจากปกติอีก 60%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
จากนี้ บริษัทวางแผนเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวมด้วย จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยกังวลมากนัก เพราะมองว่ายีนส์สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ยังไงก็ขายได้ แต่จะกังวลเรื่องต้นทุนมากกว่า หากเศรษฐกิจโลกผันผวน อาจมีผลกระทบกับราคาวัตถุดิบ จึงต้องบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุมและมีการสื่อสารร่วมกับซัพพลายเออร์ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2568 ก็จะขยายช่องทางขายเพิ่มอีก จากปัจจุบันมีทั้งหมด 600 สาขา เตรียมรีโนเวตให้เป็นแฟลกชิปสโตร์ประมาณ 30 สาขา ซึ่งทำไปแล้ว 5 สาขา เช่น เมกาบางนา, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเซ็นทรัล เวสต์เกต ซึ่งยังเหลืออีก 20-30 สาขาที่จะรีโนเวตในปีนี้ เฉลี่ยแต่ละสาขาใช้งบไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยสาขาแฟลกชิปสโตร์นั้นจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีสินค้าหลายรายการ และทันสมัยกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันลูกค้าหลักของแม็คยีนส์ส่วนใหญ่เป็น Gen Y และ Gen Z สัดส่วนถึง 70% แบ่งเป็นหญิง 40% และชาย 60% ส่วนลูกค้าที่เป็นสมาชิกอยู่ที่ 1.8 ล้านราย และเพิ่งปิดรายได้ของปีงบประมาณ 2567 ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะปิดปีบัญชี 2567 (กรกฎาคม 2566 – มิถุนายน 2567 ด้วยรายได้ทะลุ 4 พันล้านบาท ส่วนปีบัญชี 2568 ก็มั่นใจว่าจะเติบโตขึ้นทั้งในแง่ของรายได้และกำไร