×

มหาวิทยาลัยจีนประกาศเปิดหลักสูตรการแต่งงานแห่งแรก! เมื่อเศรษฐกิจซึมและสังคมยังฝังรากลึก ‘ซื้อบ้านและรถก่อน’ ทำให้หนุ่มสาวเลือกเป็นโสด

03.08.2024
  • LOADING...

มหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาด้านกิจการพลเรือน (Civil Affairs University) ในกรุงปักกิ่งของจีน ประกาศเปิดหลักสูตรสาขาใหม่ในระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการแต่งงาน ท่ามกลางเสียงสะท้อนหลากหลายมุมมองของเหล่าชาวเน็ต ตั้งคำถามถึงความจำเป็นของหลักสูตรนี้ เรียนไปก็ตกงาน? ขณะเดียวกันอัตราการเกิดที่ต่ำลงกำลังบอกถึงภาวะเศรษฐกิจจีนอยู่ไม่น้อย

 

รายงานข่าวระบุว่า หลักสูตรที่ชื่อว่า Marriage Services and Management เป็นหลักสูตรใหม่ระดับปริญญาตรี ซึ่งจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนในเดือนกันยายนนี้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

เป้าหมายของหลักสูตรจะครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมการแต่งงาน เน้นสังคมศึกษาและวัฒนธรรมครอบครัว เพื่อให้นักศึกษาและสาธารณชนได้เรียนรู้และยกระดับการปฏิรูปขนบธรรมเนียมด้านการแต่งงานของจีนควบคู่ 

 

รายวิชาในหลักสูตรจะประกอบด้วย สังคมวิทยา การออกแบบสถานที่จัดงานแต่งงาน จริยธรรมครอบครัว เศรษฐศาสตร์ของอุตสาหกรรมการแต่งงาน และนโยบายครอบครัว อีกทั้งนักศึกษาจะมีโอกาสได้ฝึกงานในหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านการแต่งงาน การจัดหาคู่ การจดทะเบียนสมรส และการให้คำปรึกษา ทั้งนี้ เป้าหมายปีนี้มหาวิทยาลัยจะเปิดรับนักศึกษา 70 คนจาก 12 มณฑล 

 

Yu Xiaohui คณบดีวิทยาลัยวัฒนธรรมการแต่งงานและศิลปะสื่อ (University’s School of Wedding Culture and Media Arts) ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ กล่าวว่า “การเรียนของหลักสูตรนี้จะเริ่มตั้งแต่ก่อนที่คู่สามีภรรยาจะเริ่มสร้างครอบครัว ไปสู่การให้คำปรึกษาก่อนหย่าร้าง” 

 

Yu Xiaohui ย้ำถึงเป้าหมายการเรียนว่า ปัจจุบันจีนขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมในตลาดด้านบริการการแต่งงาน

 

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Weibo ต่างแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเปิดหลักสูตรนี้อย่างหลากหลาย โดยมีการล้อเลียนคำประกาศดังกล่าวว่า “ถึงเวลาที่ต้องจัดตั้งหน่วยงานจัดการแต่งงานของรัฐแล้ว?” หรือบางคนก็ระบุว่า “นี่คืออุตสาหกรรมที่แย่ยิ่งกว่า Sunset แต่คือวันสิ้นโลก (Doomsday) เสียด้วยซ้ำไป” ในขณะที่บางคนตั้งคำถามถึงความจำเป็น บางคนระบุว่า “เรียนจบไปก็ตกงานอยู่ดี” 

 

 

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับประเด็นนี้อาจไม่ใช่เรื่องขำขัน เพราะเมื่อดูจากสภาพเศรษฐกิจของจีนจะพบว่า หนุ่มสาวชาวจีนแต่งงานลดลง ส่งผลให้เกิดอัตราการเกิดของประชากรลดลง จึงกดดันผู้กำหนดนโยบาย รัฐบาลจึงพยายามหาทางแก้ปัญหา

 

แม้ว่าจำนวนการแต่งงานใหม่ในจีนจะเพิ่มขึ้น 12.4% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับแนวโน้มขาลงที่กินเวลานานเกือบทศวรรษ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ระบุว่า อีกสาเหตุน่าจะมาจากการแต่งงานที่ล่าช้าลงนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด

 

เศรษฐกิจซึมและสังคมที่ฝังรากลึก ทำให้จีนกำลังเข้าสู่สังคมคนโสด?

 

ปัจจุบันมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรที่มีอายุระหว่าง 25-29 ปียังคงเป็นโสดไปจนถึงแต่งงานล่าช้า กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นของสังคมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นี่อาจกำลังสะท้อนไปถึงเศรษฐกิจและสังคมจีนยุคใหม่

 

เนื่องจากคนหนุ่มสาวจำนวนมากเลือกที่จะอยู่เป็นโสด เพื่อหาความมั่นคงในหน้าที่การงาน ด้วยบรรทัดฐานที่ฝังรากลึกเกี่ยวกับความสำคัญของการซื้อบ้านและรถก่อนแต่งงาน หรือความจำเป็นในการหาคู่ครองที่เหมาะสมทางเศรษฐกิจ ทำให้การค้นหาคู่ครองที่เหมาะสมของคนหนุ่มสาวมีความซับซ้อนมากขึ้น 

 

บวกกับตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูงและความคาดหวังที่ว่ามืออาชีพรุ่นใหม่จะต้องทำงานล่วงเวลา ทำให้เวลาและพลังงานที่พวกเขาสามารถใช้สร้างชีวิตส่วนตัวได้ลดน้อยลง

 

รายงานข่าวระบุว่า ปีที่ผ่านมาจีนสูญเสียอันดับให้กับอินเดีย และถือเป็นปีที่ตัวเลขประชากรจีนลดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ด้วยอัตราเกิดลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหลือ 6.77 คนต่อประชากร 1,000 คน 

 

เวลานี้รัฐบาลจีนกำลังเผชิญความยากลำบากอีกครั้งในการหาทางออกเพื่อพลิกฟื้นอัตราการเกิดที่ลดน้อยลง สาเหตุหลักอาจไม่ใช่ปัจจัยเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาเพียงอย่างเดียว การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายก็สะเทือนเศรษฐกิจภายในของจีนไม่น้อย

 

ฉะนั้นการเปิดหลักสูตรนี้ในรัฐบาลนำโดย สีจิ้นผิง สอดคล้องกับความพยายามอย่างต่อเนื่องของจีน ในการปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ประชากรและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเผชิญกับความท้าทายในอัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่และภาคอสังหาริมทรัพย์ 

 

Sjoerd Leenart ซีอีโอของ JPMorgan Asia Pacific ระบุว่า เศรษฐกิจของจีนยังคงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งจีนถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญ 

 

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising